ศึกษาวิเคราะห์มโนมยิทธิในพระพุทธศาสนา : กรณีศึกษาพระจูฬปันถกเถระ

Main Article Content

พระสมุห์อานนท์ อินฺทวํโส (ปู่อ้าย)
สมหวัง แก้วสุฟอง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค คือ 1) เพื่อศึกษาหลักมโนมยิทธิในพระพุทธศาสนาเถรวาท และ 2) เพื่อศึกษาวิเคราะหความเปนเอตทัคคะดานมโนมยิทธิของพระจูฬปนถกเถระ เปนงานวิจัยเชิงเอกสาร โดย การศึกษาวิเคราะหขอมูลจากพระไตรปฎกและคัมภีรที่เกี่ยวของ ผลการวิจัยพบวา


1) คําวา มโนมยิทธิ หรือ มโนมยาอิทธิ หมายถึง ญาณที่ทําใหเกิดฤทธิ์สําเร็จดวยใจ เชน สามารถ นิรมิต (สรีระ) กายอื่นขึ้นนอกจากกายนี้ ใหมีรูปสําเร็จดวยใจ สรีระที่เนรมิตขึ้นมานี้มีอวัยวะนอยใหญครบถวน มีอินทรียไมบกพรอง สมบูรณเชนเดียวกับสรีระกายเดิม ดังนั้น มโนมยิทธิ จึงเปน ความสามารถทางใจของ ภิกษุผูมีฤทธิ์ ไดเนรมิตรูปกายอื่นใหเหมือนกายเดิมขึ้นมาจํานวนมากมาย ซึ่งกายที่เนรมิตขึ้นมานี้สําเร็จมาแต ใจนั่นเอง


2) ดานเอตทัคคะในมโนมยิทธิของพระจูฬปนถกเถระ พบวา พระจูฬปนถกเถระ เดิมเปนพระไม ฉลาด ทองจําเพียงคาถาเดียวก็ไมได แตไดรับการแนะนําวิธีปฏิบัติจากพระพุทธเจา ดวยการลูบผาขาวและ บริกรรมวา ผาเช็ดธุลี ก็ไดบรรลุเปนพระอรหันต พรอมดวยคุณสมบัติพิเศษ คือมีฤทธิ์ทางใจ การพลิกแพลงจิต เมื่อหมอชีวกใหคนมานิมนตทานรูปเดียวไปฉันอาหาร แตทานกลับเนรมิตภิกษุขึ้นมาจํานวนพันรูป ซึ่งมีรูปราง หนาตาเหมือนกันทั้งหมด คั้นคนนั้นถามวา รูปใดชื่อจูฬปนถกะ ทั้งพันรูปก็ตอบพรอมกันวา อาตมาชื่อปนถกะ ในที่สุดพระพุทธเจาทรงแนะนําวา รูปใดพูดกอ นวา อาตมาชื่อปนถกะ ใหจับมือรูปนั้นมา เพราะพระรูปนั่นคือ พระจูฬปนถกะองคจริง

Article Details

บท
บทความวิจัย