การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง สถาบันทางสังคม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/11 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ
Main Article Content
บทคัดย่อ
วิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน สถาบันทางสังคม วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/11 โรงเรียนเตรียมอุดศึกษาพัฒนาการ อุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่องสถาบันทางสังคม วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/11 โรงเรียนเตรียมอุดศึกษาพัฒนาการ อุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/11 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ จำนวน 31 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 แผน รวม 3 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้วัด คือ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ นวัตกรรมคือ แบบฝึกทักษะเรื่อง สถาบันทางสังคม การวิเคราะห์ข้อมูล ดำเนินการโดยใช้สถิติในการวิจัย ประกอบด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/11 คือ ค่าร้อยละพัฒนาการ ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการประเมินคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย พบว่าการประเมินของผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นภาพรวมว่าเครื่องมือที่ใช้ในดำเนินการวิจัยครั้งนี้มีความสอดคล้องในระดับมาก (ค่า IOC เท่ากับ 1.00) ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ 2) นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะมีผลคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนคิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 6.67 และมีผลคะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนคิดเป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 13.2 3) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้จากการทำการทดสอบกลุ่มเป้าหมายก่อนเรียนและหลังเรียนปรากฏว่านักเรียนมีผลวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.5
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ปัฐมาภรณ์ โพธิ์ยิ้ม ณัฐธยาน์ พุ่มพุทรา. (2563). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนโคกลําพานวิทยา โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม (Group Process). วารสารไตรศาสตร์, 6(2), 13-30.
มะลิวรรณ อินโต. (2566). การสอนแบบร่วมมือเรื่องความเป็นไทยสาระหน้าที่พลเมืองเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 7 จังหวัดสุพรรณบุรี. บัณฑิต วิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ศศิธร บัวศรี, ธนาดล สมบูรณ์ และสมาพร มณีอ่อน. (2567). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น โดยการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านท่าม่วง. วารสารนิสิตวัง, 26(2), 26-38.
สมนึก ภัททิยธนี. (2548). การวัดและประเมินผล. ประสานการพิมพ์.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (2555). ความเป็นพลเมืองในวิถีระบอบประชาธิปไตย. สำนักพิมพ์ สำนักงำนเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
อชิรญาณ์ เพิ่มพูน. (2566). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สถาบันทางสังคม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. รายงานการวิจัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนวัดบ้านโป่ง “สามัคคีคุณูปถัมภ์”.
อรณา นรพงษ์. (2566). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านสวนแตง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร. วารสารวิจัยและวิชาการ บวรพัฒน์, 1(2), 1-15