การศึกษามโนทัศน์และความคงทนของมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการได้มาซึ่งมโนทัศน์ร่วมกับเอกสารสรุปมโนทัศน์
A STUDY OF MATHEMATICS CONCEPTS AND RETENTION OF MATHEMATICS CONCEPTS ON FUNCTION TOPIC FOR MATHAYOMSUKSA 4 STUDENTS BY USING CONCEPT ATTAINMENT MODEL AND CONCEPT WORKSHEETS
คำสำคัญ:
มโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์, รูปแบบการได้มาซึ่งมโนทัศน์, เอกสารสรุปมโนทัศน์บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ เปรียบเทียบมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการได้มาซึ่งมโนทัศน์ร่วมกับเอกสารสรุปมโนทัศน์ ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน เปรียบเทียบระหว่างหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 60 และศึกษาความคงทนของมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการได้มาซึ่งมโนทัศน์ร่วมกับเอกสารสรุปมโนทัศน์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนโนนสูงศรีธานี จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชัน จำนวน 26 ข้อ ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และแผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 13 แผน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัย พบว่า มโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการได้มาซึ่งมโนทัศน์ร่วมกับเอกสารสรุปมโนทัศน์ มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 6.28 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 18.56 ผลการเปรียบเทียบพบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการได้มาซึ่งมโนทัศน์ร่วมกับเอกสารสรุปมโนทัศน์ เรื่อง ฟังก์ชัน มีความคงทนของมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
จิราภา เต็งไตรรัตน์. (2544). จิตวิทยาทั่วไป (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พิพัฒน์ ปานชื่น. (2558). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โมเดลการได้มาซึ่งมโนทัศน์ร่วมกับการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางที่มีต่อมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์และความคงทนในการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง พาราโบลา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ยลนภา พลชัย. (2548). ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้โมเดลการได้มาซึ่งมโนทัศน์ที่มีต่อมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์และความคงทนในการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จังหวัดอุดรธานี. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
โรงเรียนโนนสูงศรีธานี. (2567). รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report : SAR) ปีการศึกษา 2566. นครราชสีมา: โรงเรียนโนนสูงศรีธานี.
อัญชลีรัตน์ รอดเลิศ. (2553). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โมเดลการพัฒนามโนทัศน์และเอกสารสรุปมโนทัศน์ที่มีต่อมโนทัศน์และความสามารถในการให้เหตุผลเชิงอุปนัยทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อัมพร ม้าคนอง. (2547). ความเข้าใจเชิงมโนทัศน์: จุดเน้นของงานสอนคณิตศาสตร์. ใน พร้อมพรรณ อุดมสินและอัมพร ม้าคนอง (บก.). ประมวลบทความหลักการและแนวทางการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
_______. (2551). การพัฒนามโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์โดยใช้โมเดลการได้มาซึ่งมโนทัศน์และคำถามระดับสูง. รายงานวิจัย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Kalani, A. (2008). A Study of the effectiveness of concept attainment model over conventional teaching method for teaching science in relation to achievement and retention. International Research Journal, 2(5), 20-22.
Lasley, T. J. & Matczynski, T. J. (2002). Instruction model: Strategies for teaching in a diverse society. Belmont California: Wadsworth.
Toumasis, C. (1995). Concept worksheet: An important tool for learning. The Mathematics Teacher. 88(2), 98-100.








