บทบาทพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและพระสงฆ์ต่อการอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุ ในประเทศไทย
THE ROLE OF LOCAL MUSEUMS AND BUDDHIST MONKS IN THE CONSERVATION OF HISTORICAL SITES AND ARTIFACTS IN THAILAND
คำสำคัญ:
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน, พระสงฆ์, โบราณสถาน, โบราณวัตถุ, การอนุรักษ์วัฒนธรรม, มรดกทางวัฒนธรรมไทยบทคัดย่อ
บทความวิชาการเรื่อง “บทบาทพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและพระสงฆ์ต่อการอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุในประเทศไทย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์องค์ความรู้เกี่ยวกับความหมาย แนวคิด และบทบาทของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและพระสงฆ์ต่อการอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุในประเทศไทย โดยอาศัยการทบทวนวรรณกรรม เอกสารทางวิชาการ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า โบราณสถานและโบราณวัตถุในประเทศไทยส่วนใหญ่สัมพันธ์กับพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นวัด โบสถ์ วิหาร เจดีย์ พระพุทธรูป หรือศิลปกรรมแขนงต่าง ๆ ที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และเทคโนโลยีในแต่ละยุคสมัย การอนุรักษ์โบราณสถานจึงเปรียบเสมือนการดูแลรักษามรดกทางจิตวิญญาณและตำรามีชีวิตที่สืบทอดจากบรรพชน พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านปรากฏบทบาทสำคัญในฐานะสถาบันถาวรที่รวบรวม อนุรักษ์ และจัดแสดงวัตถุสะท้อนวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เพื่อการศึกษาและสร้างจิตสำนึกแก่ประชาชน โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ขณะที่พระสงฆ์ทำหน้าที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ผู้พิทักษ์ดูแลศาสนสถาน และผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์ ผ่านการบูรณะซ่อมแซมศาสนวัตถุ การเผยแพร่ธรรมะ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ แต่ก็พบว่าทั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและพระสงฆ์ยังเผชิญความท้าทายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดด้านงบประมาณ การขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการบูรณะ หรือผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่อาจทำลายคุณค่าเชิงวัฒนธรรม หากไม่บริหารจัดการอย่างเหมาะสม สรุปได้ว่า พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและพระสงฆ์ต่างมีบทบาทเชื่อมและเสริมกัน โดยพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านทำหน้าที่เก็บรวบรวมและเผยแพร่ความรู้เชิงวัฒนธรรม ขณะที่พระสงฆ์เป็นผู้ดูแลรักษาและสร้างจิตสำนึกในเชิงศาสนาและคุณธรรม ทั้งสองกลไกนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการธำรงรักษาและสืบทอดโบราณสถานและโบราณวัตถุให้คงอยู่คู่สังคมไทย
เอกสารอ้างอิง
พระมหาเสถียร ถาวรธมฺโม (เกษาชาติ). (2555). การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์โบราณสถานของพระสังฆาธิการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร. (2550). แนวทางการอนุรักษ์โบราณสถานสำหรับพระสงฆ์. กรุงเทพมหานคร: บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด.
กรมศิลปากร. (2533). แผนแม่บทนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา. กรุงเทพมหานคร: บริษัทสำนักพิมพ์สมาพันธ์.
อนุวิทย์ เจริญศุภกุล. (2530). รายงานการสำรวจโบราณสถานเมืองสุโขทัยเก่า. เมืองโบราณ, 4(1).
ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพมหานคร: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ จำกัด.
บ้านจอมยุทธ. พิพิธภัณฑ์. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: www.baanjomyut.com/library_2/museum/index.html [เข้าถึงเมื่อ 12 สิงหาคม 2568].
กรมศิลปากร. (2539). คู่มือการปฏิบัติงานของภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ.
สภาการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ICOM). ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งและการสนับสนุนโดย UNESCO ตั้งแต่ พ.ศ. 2489.
พระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ). (2540). เอกสารประกอบการบรรยายเรื่องการคณะสงฆ์และการพระศาสนา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Hudson. (1978). Cultural: Conservation Economic Development. In Conservation and Tourism. London: Heritage Trust.
กรมศิลปากร. (2548). พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สมาพันธ์.
สุรศักดิ์ ศรีสำอาง. (2542). โบราณคดี ประวัติศาสตร์ และศิลปะ. กรุงเทพมหานคร: แพร่วิทยา.
สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร. (2542). คู่มือปฏิบัติงานอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: กรมศิลปากร.
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ. (2540). คู่มือถวายความรู้แด่พระสังฆาธิการ ปี 2538–2540. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สหธรรมิก จำกัด.
Carter, Larry W. (1972). Environmental Impact Assessment. New York: McGraw-Hill Book Company.
ปิ่นรัชฎ์ กาญจนัษฐิติ. (2552). การอนุรักษ์มรดกสถาปัตยกรรมและชุมชน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ. (2533). พระปฐมเจดีย์กับเมืองนครปฐม. ศิลปวัฒนธรรม, 12(1).








