หลักสัปปายะ 7 กับแนวทางจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

THE SEVEN SAPPAYA PRINCIPLES AND APPROACHES TO ENGLISH LANGUAGE LEARNING THROUGH CULTURAL TOURISM

ผู้แต่ง

  • พระครูกาญจนธรรมาภรณ์ วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ศรีไพบูลย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระครูวินัยธรณรงวิทย์ สิทฺธิเมธี (ทองหยู่) โรงเรียนสิทธิธรรม
  • พระมหาณรงค์ศักดิ์ สุทนฺโต (สุทนต์) วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระมหาสุรศักดิ์ ธีรงฺกุโร (เกือมรัมย์) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระพัฒนวัชร์ ญาณสิริ (พูลสวัสดิ์) วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

หลักสัปปายะ 7, แนวทางจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสัปปายะ

บทคัดย่อ

บทความวิชาการนี้นำเสนอแนวทางการบูรณาการ หลักสัปปายะ 7 กับการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของผู้เรียนในบริบทจริง ด้วยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สะท้อนคุณค่าทางวัฒนธรรมและศาสนา หลักสัปปายะ 7 ประกอบด้วยสถานที่ อาวาสสัปปายะ อาหาร โภชนสัปปายะ บุคคล บุคคลสัปปายะ การสนทนา ธรรมสัปปายะ สภาพอากาศ อุตุสัปปายะ ท่าทาง อิริยาบถสัปปายะ และจิตใจ จิตตสัปปายะ ถูกนำมาเป็นเกณฑ์ในการออกแบบการเรียนรู้ที่เอื้อต่อสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ที่เหมาะสม ในเชิงปฏิบัติ ผู้เรียนจะได้ลงพื้นที่วัดหรือชุมชนวัฒนธรรม เช่น ชุมชนตลาดน้ำ วัดเก่าแก่ หรือศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อฝึกทักษะภาษาอังกฤษจากสถานการณ์จริง การสัมภาษณ์พระสงฆ์หรือชาวบ้าน การเขียนบรรยายแหล่งท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ หรือการจัดนิทรรศการวัฒนธรรมร่วมกับชาวต่างชาติ โดยกิจกรรมทั้งหมดดำเนินไปในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีผู้ให้คำแนะนำที่เกื้อกูล และกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ประโยชน์ของการประยุกต์ใช้หลักสัปปายะ 7 คือ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อสติ สมาธิ และความกล้าแสดงออก ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจในสถานการณ์ชีวิตจริง อีกทั้งยังได้ซึมซับคุณค่าทางวัฒนธรรม ส่งเสริมความเข้าใจในบริบทสังคม และพัฒนาทักษะภาษาในเชิงสื่อสาร

เอกสารอ้างอิง

กรมอาเซียน. (2555). ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการต่างประเทศ.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). แบบฝึกประกอบการสอนตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

จิตพิสุทธ์ จันตะคุต. (2561). ความสำคัญของภาษาอังกฤษ. สืบค้น 8 มกราคม 2568, จากhttps://sites.google.com/site/krujitpisut/khwam-sakhay-khxng-phasa-xangkvs.

จุฑาธิปต์ จันทร์เอียด, อังสุมาลิน จํานงชอบ และ ณัฏฐพัชร มณีโรจน์. (2561).“การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ในพื้นที่อําเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว”. วารสารศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่. 10(2).

ชาชิวัฒน์ ศรีแก้ว. (2554). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540. กรุงเทพมหานคร: สมานการพิมพ์.

ชูเกียรติ นพเกตุ (2542). การท่องเที่ยวโดยใช้ชุมชนเป็นฐานจุดเริ่มต้นของการพัฒนาอย่างยั่งยืน.กรุงเทพมหานคร: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.

ดำเกิง โถทอง และคณะ (2550). เส้นทางการท่องเที่ยวอารยธรรมขอมในประเทศไทย กัมพูชา ลาว. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

พระพรหมคุณาภรณ์ (2545). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรม Dictionary of Buddhist. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เอส อาร์ พริ้นติ้งแมสโปรดักส์ จํากัด.

พระโสภณมหาเถระ อัครมหาบัณฑิต (2548). วิปัสสนานัย เล่ม 1, พระพรหมโมลี (สมศักดิ์อุปสโม, ป.ธ. 9, Ph.D) ตรวจชําระ, พระคันธสาราภิวงศ์ เรียบเรียง. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนจํากัด ซีเอไอเซ็นเตอร์.

มหามกุฏราชวิทยาลัย (มปป.). วิสุทธิมรรคแปล ภาค 3 ตอน 2. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (2539). พระไตรปฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพ์จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

วรรณา วงษ์วานิช (2539). ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุมิตรา อังวัฒนกุล (2540). วิธีสอนภาษาอังกฤษ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Savignon, S.J. (1991). Communicative Language Teaching: State of the Art. TESOL Q.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ