หลักธรรมทางพุทธศาสนาและแนวคิดปรัชญาจีนกับกับภาวะความเหงาในสังคมปัจจุบัน
BUDDHISM TEACHING AND CHINESE PHILOSOPHICAL CONCEPTS (TAOISM AND CONFUCIUS) RELATING LONELINESS IN CONTEMPORARY SOCIETY
คำสำคัญ:
หลักธรรมพุทธศาสนา, ปรัชญาจีน, ความเหงา, เข้าใจตนบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวคิดว่าด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและปรัชญาจีน (เต๋า,ขงจื๊อ) เรื่องความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ 2) ศึกษาความต้องการแสวงหาความรู้ของมนุษย์เพื่อพัฒนาตน และ 3) ศึกษาการประยุกต์หลักธรรมในพุทธศาสนาและปรัชญาจีนกับประเด็นสุขภาพเรื่องความเหงา (Loneliness) และความเข้าใจตนเอง (Self-Awareness) ระเบียบวิธีเป็นการวิจัยด้านเอกสาร (Documentary research) โดยวิเคราะห์และสังเคราะห์ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง (Content Analysis) พร้อมกับอภิปรายผลสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ จากการวิจัยพบว่าหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ปรัชญาจีน (เต๋าและขงจื๊อ) มีวิธีคิดที่คล้ายคลึงกันในหลักของการเข้าใจธรรมชาติทั้งเข้าใจพื้นฐานธรรมชาติของตัวเอง (ความเป็นมนุษย์) และพื้นฐานธรรมชาติของสิ่งแวดล้อม หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่อง ทิศ 6 ได้อธิบายถึงการมีปฏิสัมพันธ์ในสังคม ตามชื่อได้กล่าวชัดเจนถึงทิศรอบตัวหมายถึงสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย เริ่มต้นจากสังคมครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และสถานะทางสังคม ดังนั้น ความเหงา (Loneliness) เป็นภาวะจิตใจที่รู้สึกขาดการมีปฏิสัมพันธ์ภายในสังคมซึ่งสังคมที่แวดล้อมด้วยผู้คนหรือแม้กระทั่งอยู่ท่ามกลางผู้คน การเข้าใจสังคม สิ่งแวดล้อม คนรอบข้าง และนำหลักวิธีคิดหรือหลักธรรมทางพุทธศาสนาและปรัชญาจีนไปประยุกต์ใช้จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีและสามารถลดระดับความเหงาที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ในที่สุด ข้อเสนอแนะว่าด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในประเด็นทางปฏิบัติเพิ่มเติม อาทิ หลักการครองเรือนในปรัชญาพื้นฐานไทยรวมถึงปรัชญาจีนที่เป็นคติใหม่เกี่ยวกับเรื่องความเป็นธรรมชาติและการดำเนินชีวิตของมนุษย์เพื่อให้ครอบคลุมในบริบทสังคม สถานะและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเรามากยิ่งขึ้น และเพิ่มเติมการประยุกต์ประเด็นสุขภาพเรื่องความเหงา (Loneliness) และความเข้าใจตนเอง (Self-Awareness) ถึงผลกระทบในกลุ่มที่จำกัดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่แตกต่างจากการวิจัยในเอกสารและสามารถกำหนดกลุ่มตัวอย่างได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กิตติยานนท์ วรรณวงศ์. และคณะ (2021). หน้าที่พลเมืองตามแนวพุทธศาสตร์. Journal of MCU Ubon Review, Vol.6 No.3 (September-December 2021)
ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์. (2016). ขงจื๊อ, คำสอนทางปรัชญาและศาสนา. Thai Journal of East Asian Studies, 2(1). retrieved from https://so02.tcithaijo.org/index.php/easttu/article/view/51419
ณรงค์วรรษ บุญมา. (2561). ธรรมชาตินิยมของปรัชญาเต๋า: ข้อโต้แย้งการนำแนวคิดธรรมชาตินิยมมาใช้กับมนุษย์. วารสารปรัชญาและศาสนา 3, คณะสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
นริสรา เขียวอ่อน. (2564). ธรรมชาติและความงามสะท้อนชีวิต. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต,บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ไพศาล วิสาโล. (2555). เป็นมิตรกับความเหงา. ชมรมกัลยาณธรรม พิมพ์ที่ สำนักพิมพ์สุภา บางพลัด กรุงเทพฯ.
รพีพรรณ ภู่ทอง. และคณะ (2560). ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยธรรมด้านกตัญญูในปรัชญาขงจื๊อและเล่าจื๊อ. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 14, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน.
สุขเกษม โรจน์พงษ์เกษม. พระครูสมุห์. และคณะ (2566). วิเคราะห์ความสัมพันธ์ความเคารพกับทิศ 6 ในสังคมไทย. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ ปีที่ 11 ฉบับที่ 12.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์. (ป.อ.ปยุตโต, 2558). จากจิตวิทยา สู่จิตภาวนา. เผยแผ่ออนไลน์ (เลขที่: ISBN 974-553-011-5)
โสภณ วิจิตฺตธมฺโม. และคณะ (2560). พุทธจิตวิทยากับการเปลี่ยนแปลงมนุษย์ตามหลักสติปัฏฐาน 4. สาขาพุทธจิตวิทยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. วารสารพุทธจิตวิทยา ปีที่ 2 (ฉบับที่ 2).
อุทัย สุดสุข. และคณะ (2563). ปรัชญาสุขภาพและสาธารณสุขประยุกต์ (Applied health and Public Health Philosophy). มูลนิธิอุทัย สุดสุข และสำนักบริหารยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นนทบุรี.
อัญชิษฐา หาญกิจรุ่ง. (2559). พุทธจิตวิทยาเพื่อการพัฒนาตน. สาขาพุทธจิตวิทยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. วารสารพุทธจิตวิทยา ปีที่ 1 (ฉบับที่ 2).
Daniel Perlman and Letitia Anne Peplau. (1982). Theoretical approaches to Loneliness. Research article, researchGate, USA. (uploaded 0n 2016).
Daniel W. Russell. (1996). UCLA Loneliness Scale (Version 3): Reliability, Validity, and Factor Stricture. Department of Psychology and Department of Statistics and Center for Family Research in Rural Mental Health, Lowa State University, USA.
Tony Robbins. (1996). The Driving Force: The Six Human Needs (Anthony Robbins' Personal Power II, The Driving Force, Volume 12), Robbins Research International, Inc. USA.








