การศึกษาผลฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจโดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนิค STAD วิชาสังคมศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
A STUDY ON THE LEARNING ACHIEVEMENT AND SATISFACTION USING STAD COOPERATIVE LEARNING TECHNIQUE THE SOCIAL STUDIES SUBJECT OF 3RD GRADE STUDENTS
คำสำคัญ:
คำสำคัญ: การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ความพึงพอใจบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาสังคมศึกษาเรื่อง ออมไว้ไม่ขัดสน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาสังคมศึกษาเรื่อง ออมไว้ไม่ขัดสน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD หลังเรียนกับเกณฑ์ 75% 3) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองโดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนห้วยไหวัฒนา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 จำนวน 16 คน ที่ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD จำนวน 7 แผน ใช้เวลาสอนแผนละ 2 ชั่วโมง รวม 14 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และการทดสอบค่าที
ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาสังคมศึกษาเรื่อง ออมไว้ไม่ขัดสน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 75% อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เช่นกัน และพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ระดับมาก ในด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านเนื้อหา ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านสื่อการเรียนการสอน และด้านการประเมินผล