การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา โดยการจัดการเรียนรู้แบบ MACRO Model ร่วมกับหนังสือนิทานอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
The Development of Reading and Writing Achievement for Words with Irregular Spelling through the MACRO Model Combined with Electronic Storybooks of Grade 2 Students.
คำสำคัญ:
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านและการเขียน คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ MACRO Model หนังสือนิทานอิเล็กทรอนิกส์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่าน และการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา โดยการจัดการเรียนรู้แบบ MACRO Model ร่วมกับหนังสือนิทานอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา โดยการจัดการเรียนรู้แบบ MACRO Model ร่วมกับหนังสือนิทานอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 โรงเรียน โรงเรียนบ้านสารภี และโรงเรียนบ้านฝังงา ตำบลสะแกซำ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนนักเรียน 18 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ได้มาโดยการเลือกแบบสุ่ม (Simple random sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ MACRO Mode ร่วมกับหนังสือนิทานอิเล็กทรอนิกส์ และแบบทดสอบความสามารถในการอ่านและการเขียน
ได้ค่าดัชนีความยากง่ายของแบบทดสอบอยู่ระหว่าง 0.25-0.75
ค่าดัชนีอำนาจจำแนกของแบบทดสอบ มีค่าตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป และหาค่าความเชื่อมั่น (Relibility)
ทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย (M) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
และสถิติค่าที (t-test )
ผลการวิจัยพบว่า
1.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของนักเรียน
ประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของนักเรียน
ประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
3.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของนักเรียน
ประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
4.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของนักเรียน
ประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05