การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมเป็นกลไกสร้างความสามัคคีในสังคมบนรากฐานการเกื้อกูลต่อกัน

THE APPLICATION OF BUDDHIST PRINCIPLES AS A STRATEGIC METHOD FOR CREATING UNITY IN SOCIETY BASED ON THE FOUNDATION OF MUTUAL SUPPORT

ผู้แต่ง

  • พระครูจิรกาญจนวงศ์ ญาณุตฺตโม -

คำสำคัญ:

หลักพุทธธรรม, ความสามัคคีในสังคม, การเกื้อกูลต่อกัน, , สังคมไทย

บทคัดย่อ

ในสังคมไทย วัดและชุมชนมีความสัมพันธ์ที่ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นมายาวนาน วัดมิได้เป็นเพียงสถานที่ประกอบศาสนกิจเท่านั้น หากยังทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ แหล่งให้การศึกษา และศูนย์กลางในการพัฒนาชุมชนในทุกมิติ ในขณะที่ชุมชนเองก็มีบทบาทสำคัญในการทำนุบำรุงวัด อุปถัมภ์พระสงฆ์ และร่วมทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันนี้เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้พระพุทธศาสนาและวิถีชุมชนมีความมั่นคงสืบต่อมาอย่างยาวนาน

           อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนี้กำลังถูกท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในยุคปัจจุบัน วิถีชีวิตที่เร่งรีบ ความเจริญทางวัตถุ และกระแสโลกาภิวัตน์ ได้ส่งผลให้ความผูกพันระหว่างวัดและชุมชนเริ่มห่างเหิน การฟื้นฟูและธำรงรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างวัดกับชุมชนจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันดำเนินการ

การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมในการสร้างความสามัคคีเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหลักธรรมสำคัญ เช่น สังคหวัตถุ 4 (ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตตา) พรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) และอิทธิบาท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) ที่เน้นการมีใจรักในสิ่งที่ทำ ความเพียรพยายาม ความเอาใจใส่ และการใช้ปัญญาไตร่ตรอง

           การนำหลักพุทธธรรมมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางสร้างความสามัคคีบนรากฐานของการเกื้อกูลต่อกัน จะช่วยสานสัมพันธ์อันดีระหว่างวัดและชุมชนให้กลับคืนมา ส่งเสริมให้สังคมมีศีลธรรมจริยธรรม ลดความขัดแย้ง สร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคง ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืนสืบไป

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-02-27