บทบาทของสตรีมุสลิมในการพัฒนาสังคมไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มุ่งเน้นการศึกษาบทบาทของสตรีมุสลิมในการพัฒนาสังคมไทย โดยวิเคราะห์ผ่าน 4 มิติหลัก ได้แก่ 1) การส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนและชุมชน 2) การศึกษาและการพัฒนาทักษะเพื่อเสริมสร้างโอกาสทางสังคม 3) การมีส่วนร่วมทางศาสนาและสังคมเพื่อสร้างความเข้มแข็งในชุมชน และ 4) การสร้างเครือข่ายและการพึ่งพาตนเองเพื่อความมั่นคงทางสังคม ผลการศึกษาพบว่าสตรีมุสลิมมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยมีปัจจัยสนับสนุนและอุปสรรคที่ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน บทความนี้นำเสนอแนวทางและกลยุทธ์ในการส่งเสริมศักยภาพของสตรีมุสลิมให้สามารถมีบทบาทที่เข้มแข็งขึ้นในสังคมไทย องค์ความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายและสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ องค์กรทางศาสนา และเครือข่ายชุมชนเพื่อพัฒนาสตรีมุสลิมให้มีความเท่าเทียมและมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
คุณิตา ขันธชัย และ สุรสิทธิ์ วชิรขจร. (2558). คุณภาพชีวิตสตรีมุสลิมในชุมชนตำบลคลองตะเคียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 5(2), 81.
นาอีหม๊ะ นิฮะ. (2541). รูปแบบของการสื่อสารและการยอมรับบทบาทของสตรีมุสลิมในการบริหารจัดการสหกรณ์ออมทรัพย์อิสลาม บ้านสุไหงปาแน อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี (วิทยานิพนธ์ปริญญานิเทศศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นุรุลฮุดา อับรู และวันพิชิต ศรีสุข. (2565). สตรีมุสลิม: ชีวิตและบทบาทในการเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมในจังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์วิจัยแห่งเอเชีย, 3(1), 17-32.
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 12. (2559). รายงานการวิจัยกลยุทธ์ในการส่งเสริมบทบาทสตรีมุสลิมต่อการพัฒนาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้. สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
สุรชัย ไวยวรรณจิตร, ประภาพร หลังปูเต๊ะ, มูฮำหมัด ราเพียร์ มะเก็ง, แว นีซะ สุหลง และซอลาฮุดดีน การียะ. (2560). การมีพื้นที่ของสตรีมุสลิมกับการสร้างเสริมสุขภาพผ่านการมีกิจกรรมทางกายภายใต้บริบทสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ระยะที่ 1). (รายงานวิจัย). สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.