ความทรงจำร่วมกับการเมืองของความเงียบ: บาดแผลทางประวัติศาสตร์ในสังคมไทยร่วมสมัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความเรื่อง ความทรงจำร่วมกับการเมืองของความเงียบ: บาดแผลทางประวัติศาสตร์ในสังคมไทยร่วมสมัย มุ่งศึกษาความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างความทรงจำร่วม กับความเงียบในฐานะกลไกทางการเมืองและสังคม โดยเสนอว่าความเงียบมิได้เป็นเพียงการไม่พูดถึงเหตุการณ์ในอดีต หากแต่เป็นเครื่องมือเชิงโครงสร้างที่รัฐและสถาบันอำนาจใช้ในการจัดการอดีต ควบคุมความหมายของประวัติศาสตร์ และหลีกเลี่ยงความรับผิดจากความรุนแรงทางการเมือง โดยใช้กรอบแนวคิดว่าด้วยความทรงจำร่วม การเมืองของความทรงจำ ความเงียบในฐานะอำนาจ และบาดแผลทางวัฒนธรรม เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการของความทรงจำและความเงียบในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยเน้นเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 เป็นกรณีศึกษาเชิงเปรียบเทียบ ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า สังคมไทยมีแนวโน้มเลือก “จำเพื่อเชิดชู” ในกรณี 14 ตุลาคม ขณะที่กลับ “ทำให้เงียบ” ในกรณี 6 ตุลาคม ผ่านกลไกของรัฐ ระบบการศึกษา สื่อ และกระบวนการยุติธรรมที่ล้มเหลวในการเอาผิดผู้กระทำความรุนแรง ความเงียบดังกล่าวนำไปสู่วัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด การผลิตซ้ำของความรุนแรง และการบ่อนทำลายหลักนิติรัฐและศักดิ์ศรีของรัฐธรรมนูญ เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีศึกษาต่างประเทศ ได้แก่ แอฟริกาใต้และเยอรมนี พบว่าสังคมที่เลือกเผชิญหน้ากับอดีตผ่านความยุติธรรมเชิงเปลี่ยนผ่าน การเปิดเผยความจริง และการสร้างวัฒนธรรมความทรงจำ สามารถเปลี่ยนบาดแผลทางประวัติศาสตร์ให้กลายเป็นฐานศีลธรรมใหม่ของรัฐได้ ในทางตรงกันข้าม สังคมไทยที่ยังคงยึดแนวทาง “ลืมเพื่อความสงบ” กำลังสะสมต้นทุนทางศีลธรรมและการเมืองในระยะยาว บทความจึงเสนอให้รัฐไทยสร้างกลไกความยุติธรรมเชิงเปลี่ยนผ่าน คุ้มครองเสรีภาพในการรื้อฟื้นความทรงจำ และเปลี่ยนกรอบคิดจากความปรองดองเชิงเงียบไปสู่ความปรองดองบนฐานของความจริง เพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตยที่มีความรับผิดและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.