ข้อมูลสำหรับผู้แต่ง
ถ้าท่านสนใจส่งบทความมาตีพิมพ์ เราขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบหน้า เกี่ยวกับวารสาร สำหรับนโยบายบทต่าง ๆ วารสาร ในสาขาที่รับ รวมถึง คำแนะนำสำหรับผู้แต่ง ผู้แต่งจะต้อง ลงทะเบียน เพื่อรับได้สิทธิ์ในการส่งบทความ หรือหากท่านได้เคยลงทะเบียนเป็นผู้แต่งของวารสารนี้แล้วก็จะสามารถ simply เข้าสู่ระบบ และเริ่มขั้นตอนการส่งบทความ
1.ประเภทของผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสารพุทธศิลปกรรม
1.1 บทความวิจัย (Research Article) เป็นบทความที่มีการค้นคว้าอย่างมีระบบ และมีความมุ่งหมายชัดเจน เพื่อให้ได้ข้อมูลหรือหลักการบางอย่างที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้า ทางวิชาการ หรือการนำวิชาการมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ บทความวิจัยมีรูปแบบของการวิจัยตามหลักวิชาการ เช่น มีการตั้งสมมติฐานหรือมีการกำหนด ปัญหาที่ชัดเจนสมเหตุผล โดยจะต้องระบุวัตถุประสงค์ที่เด่นชัดแน่นอน มีการรวบรวมข้อมูล พิจารณาวิเคราะห์ ตีความและสรุปผลการวิจัยที่สามารถให้คำตอบหรือบรรลุวัตถุประสงค์
1.2 บทความวิชาการ (Academic Article) เป็นบทความที่เขียนขึ้นในลักษณะวิเคราะห์วิจารณ์ หรือเสนอแนวคิดใหม่ ๆ จากพื้นฐานทางวิชาการที่ได้เรียบเรียงจากผลงานทางวิชาการของตนเองหรือของผู้อื่น หรือเป็นบทความทางวิชาการที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นความรู้ที่มีประโยชน์แก่คนทั่วไป
1.3 บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review) หนังสือที่นำมาวิจารณ์นั้นต้องเป็นหนังสือทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนากับศาสต์ด้านต่างๆ และพุทธศาสนากับวิทยาการสมัยใหม่ เป็นการเขียนขึ้นในลักษณะวิเคราะห์วิจารณ์ เช่น วิเคราะห์เนื้อหา ทัศนวิจารณ์ รูปแบบทางวรรณกรรม ภาษาและการนำเสนอ การออกแบบเนื้อหา ความทันสมัย คุณค่าของหนังสือ หลักธรรมที่ปรากฏในหนังสือ และสรุปข้อเสนอแนะ
2. รูปแบบของการจัดเตรียมต้นฉบับ
2.1 ต้นฉบับบทความต้องมีความยาว 8 - 15 หน้ากระดาษ A 4 (รวมเอกสารอ้างอิง) พิมพ์บนกระดาษหน้าเดียว ใช้ตัวอักษรแบบ TH Sarabun PSK เท่านั้น ตั้งค่าหน้ากระดาษโดยเว้นขอบบน ขอบซ้าย 1 นิ้ว และขอบขวา ขอบล่าง 1 นิ้ว กำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัดเท่ากับ 1 และเว้นบรรทัดระหว่างแต่ละย่อหน้า การนำเสนอรูปภาพและตาราง ต้องนำเสนอรูปภาพและตารางที่มีความคมชัดพร้อมระบุหมายเลขกำกับรูปภาพไว้ด้านล่าง พิมพ์เป็นตัวหนา เช่น ตาราง 1 หรือ Table 1 และ รูป 1 หรือ Figure 1 รูปภาพที่นำเสนอต้องมีรายละเอียดของข้อมูลครบถ้วน และเข้าใจได้โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปอ่านที่เนื้อความอีก ระบุลำดับของรูปภาพทุกรูป ให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่อยู่ในต้นฉบับ โดยคำอธิบายต้องกระชับและสอดคล้องกับรูปภาพที่นำเสนอ
2.2 ชื่อเรื่องต้องมีภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พิมพ์ไว้หน้าแรกตรงกลาง
2.3 ชื่อผู้เขียน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาด 16 pt พิมพ์ด้วยตัวอักษรปกติอยู่ใต้ชื่อเรื่องโดยเยื้องมาทางด้านขวา และให้ตัวเลขเป็นตัวยก ท้ายชื่อผู้เขียนเพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อหน่วยงานภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
2.4 มีบทคัดย่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไม่เกิน 300 คำต่อบทคัดย่อ
2.5 กำหนดคำสำคัญ (Keywords) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
2.6 การเรียงหัวข้อ หัวข้อใหญ่สุด ให้พิมพ์ชิดขอบด้านซ้าย ขนาดตัวหนังสือ 18 pt ตัวหนา หัวข้อย่อยเว้นห่างจาก หัวข้อใหญ่ 1.75 เซ็นติเมตร และหัวข้อย่อยขนาดเดียวกัน ต้องพิมพ์ให้ตรงกัน เมื่อขึ้นหัวข้อใหญ่
2.7 การใช้ตัวเลขคำย่อ และวงเล็บ ควรใช้ตัวเลขอารบิกทั้งหมด ใช้คำย่อที่เป็น สากลเท่านั้น (ระบุคำเต็มไว้ในครั้งแรก) การวงเล็บภาษาอังกฤษ ควรใช้ดังนี้ (Student centered learning)
3. ขั้นตอนการเขียนบทความ
3.1 บทความวิจัย ให้เรียงลำดับสาระ ดังนี้
1) ชื่อเรื่องภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
2) ชื่อผู้วิจัย ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ชื่อหน่วยงาน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ อีเมล
3) บทคัดย่อ (Abstract)
เสนอวัตถุประสงค์ของการวิจัย วิธีการวิจัย และผลการวิจัยโดยสรุปมีความกะทัดรัดและสั้น เนื้อหาไม่เกิน 400 คำ
4) บทนำ (Introduction)
ระบุความสำคัญของปัญหาการวิจัย กรอบแนวคิด
5) วัตถุประสงค์การวิจัย
6) ระเบียบวิธีวิจัย (Research Methodology)
ระบุแบบแผนการวิจัยการได้ มาซึ่งกลุ่มตัวอย่างและการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล
7) ผลการวิจัย/ผลการทดลอง (Results)
เสนอผลที่พบตามวัตถุประสงค์การวิจัยตามลำดับอย่างชัดเจน ควรเสนอในรูปตารางหรือแผนภูมิ
8) อภิปรายผล/วิจารณ์ (Discussion)
เสนอเป็นความเรียงชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของผลการวิจัยกับกรอบแนวคิด และงานวิจัยที่ผ่านมา ไม่ควรอภิปรายเป็นข้อ ๆ แต่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของตัวแปรที่ศึกษาทั้งหมด
9) องค์ความรู้จากงานวิจัย
ระบุองค์ความรู้ที่ได้อันเป็นผลมาจากการวิจัย ผ่านการสังเคราะห์ออกมา ในรูปแบบของความเรียง และ แผนภูมิ แผนภาพ หรือ ผังมโนทัศน์ พร้อมทั้งการอธิบายที่รัดกุม เข้าใจได้ง่าย
10) สรุป (Conclusion) ระบุข้อสรุปที่สำคัญและข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ และประเด็นสำหรับการวิจัยต่อไป
11) ข้อเสนอแนะ (Suggestion)
12) บรรณานุกรม (References)
ต้องเป็นรายการที่มีการอ้างอิงไว้ในเชิงอรรถเท่านั้น การอ้างอิงในเนื้อเรื่องใช้ระบบ APA
3.2 บทความวิชาการ ให้เรียงลำดับสาระ ดังนี้
1) ชื่อเรื่องภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
2) ชื่อผู้วิจัย ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ชื่อหน่วยงาน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ อีเมล
3) บทคัดย่อ (Abstract)
4) บทนำ (Introduction)
5) เนื้อเรื่อง (Content) แสดงสาระสำคัญที่ต้องการนำเสนอตามสำดับ
6) สรุป (Conclusion)
7) ข้อเสนอแนะ (Suggestion)
8) บรรณานุกรม (Reference) การอ้างอิงในเนื้อเรื่องใช้ระบบ APA
3.3 บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review)
1) ชื่อเรื่องต้องมีภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ พิมพ์ไว้หน้าแรกตรงกลาง
2) ชื่อผู้เขียน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุชื่อต้นสังกัด และชื่อหน่วยงาน พิมพ์ไว้ตรงกลาง บรรทัดที่สองถัดจากชื่อเรื่อง
3) ชื่อผู้แต่ง หมายเลข ISBN สำนักพิมพ์ ปีที่พิมพ์ จำนวนหน้า พร้อมรูปหน้าปกของหนังสือ พิมพ์ไว้ตรงกลาง บรรทัดที่สามถัดจากชื่อผู้เขียน
4) บทนำ
5) ส่วนที่ 1 เนื้อหา
6) ส่วนที่ 2 เนื้อหา ทัศนวิจารณ์
(6.1) รูปแบบทางวรรณกรรม
(6.2) ภาษาและการนำเสนอ
(6.3) การออกแบบเนื้อหา
(6.4) ความทันสมัย
7) ส่วนที่ 3 ด้านคุณค่าของหนังสือ
8) ส่วนที่ 4 หลักธรรมที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้
9) ส่วนที่ 5 สรุปและข้อเสนอแนะ
10) บรรณานุกรม