วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts
th-TH
jba.cm@mcu.ac.th (พระอธิวัฒน์ ธรรมวัฒน์ศิริ, ดร.)
am-nad-2008@hotmail.com (อำนาจ ใจยาว)
Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700
OJS 3.3.0.8
http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss
60
-
ผังแม่บทอโรคยาราม อุทยานธรรมวัดปันเส่า: แนวคิด และการออกแบบทางสถาปัตยกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6237
<p class="p1">บทความนี้นำเสนอกรอบแนวคิดและแผนพัฒนาเชิงกายภาพของโครงการ ìอโรคยาราม อุทยานธรรมî เพื่อยกระดับวัดปันเสา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางสุขภาวะและจิตวิญญาณของชุมชน โครงการเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2565 ภายใต้วิสัยทัศน์สร้าง ìวัดแห่งสุขภาพและธรรมะî บนพื้นฐานสองมิติสำคัญคือ ìอโรคยะî (สุขภาพกายñใจ) และ ìธรรมะî (การพัฒนาภายใน) แผนปฏิบัติงานครอบคลุมระยะเวลา 15 ปี แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ (1) จัดทำผังแม่บทเบื้องต้น (Conceptual Design) (2) พัฒนาแบบสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ (Design Development) และ (3) จัดทำแผนพัฒนาสุดท้ายที่พร้อมนำไปใช้จริง (Final Design) การดำเนินงานขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสงฆ์ หน่วยงานรัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น โดยใช้กระบวนการออกแบบอย่างมีส่วนร่วม</p> <p class="p1">แนวทางออกแบบมุ่งอนุรักษ์โบราณสถานควบคู่กับสร้างสรรค์องค์ประกอบใหม่ที่สอดคล้องกับบริบทดั้งเดิม ประกอบด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเส้นทางเดินสมาธิ จัดตั้งลานเจริญสติ และศูนย์เรียนรู้ศาสนาñสุขภาพ พร้อมผสานการบริการกับโรงพยาบาลและสถาบันการศึกษาใกล้เคียง ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือวัดปันเสาจะเป็นต้นแบบพื้นที่ศาสนธรรมร่วมสมัยที่สงบ สมดุล และยั่งยืน อันสามารถหล่อเลี้ยงทั้งสุขภาวะและศรัทธาของชุมชนได้อย่างแท้จริง</p> <p class="p2"> </p>
พระครูธีรสุตพจน์, พระแปง แสงมณี, ชาญณรงค์ ศรีสุวรรณ
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6237
Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
งานพุทธศิลป์สื่อธรรม: เครื่องมืออันทรงพลังสำหรับสร้างจริยธรรม ในยุคโลกาภิวัตน์
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6166
<p class="p1">ปัจจุบันปัญหาทุจริตคอรัปชั่นและปัญหาศีลธรรมส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าของชาติ ในขณะเดียวกันศาสนาถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการสร้างศีลธรรมแก่คนในสังคมแต่กลับมีผู้คนเข้าถึงหลักธรรมได้ยากส่งผลต่อศีลธรรมในสังคมที่เสื่อมทรามลง ทั้งนี้งานพุทธศิลป์ถูกใช้เป็นเครื่องมือขัดเกลาศีลธรรมให้แก่ผู้คนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเนื่องจากสามารถสื่อสารได้รวดเร็วโดยไม่ต้องอ่านหลักธรรมจำนวนมาก ดังนั้นการศึกษาวิเคราะห์ความเข้าใจหลักธรรมของผู้คนจึงมีผลต่อการสร้างงานพุทธศิลป์และการหาแนวทางปรับเปลี่ยนรูปแบบการสื่อธรรมให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมและรูปแบบการสื่อสารที่เปลี่ยนไปในยุคโลกาภิวัตน์เพื่อจะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงหลักธรรมได้ง่ายขึ้นและสามารถหาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดศีลธรรมของสังคมในปัจจุบัน</p> <p class="p1">บทความวิชาการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์บทบาทและประสิทธิภาพการสื่อสารหลักธรรมของงานพุทธศิลป์โดยศึกษาวิจัยจากรูปแบบและความเข้าใจหลักธรรมที่สื่อผ่านงานพุทธศิลป์ ตลอดจนศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้งานพุทธศิลป์เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักธรรมให้เหมาะสมกับบริบททางสังคม โดยศึกษาเปรียบเทียบกับการปรับตัวของศิลปะเพื่อศาสนาคริสต์และศาสนาพุทธในยุคสมัยที่บริบทด้านรูปแบบการสื่อสารเปลี่ยนไป รวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาและปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ส่งผลต่อรูปแบบการสื่อธรรมของงานพุทธศิลป์ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดผลการศึกษาและการเสนอแนะแนวทางการปรับเปลี่ยนนโยบายศีลธรรมระดับชาติและระบบการประเมินผลด้านศีลธรรมที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านศีลธรรม โดยสามารถเชื่อมโยงวัดกับชุมชนโดยมีรัฐเป็นตัวกลาง เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านศีลธรรมแก่พระพุทธศาสนาและสังคมไทยสืบไป</p>
ภัสสร ฆ้องเลิศ
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6166
Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
ผังวัดหลวงในล้านนาที่รับอิทธิพลจากพุทธศาสนาลังกาวงศ์ : แนวคิดด้าน จักรวาลวิทยาและสถาปัตยกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6271
<p class="p1">บทความวิชาการนี้มุ่งนำเสนอแนวคิดและเอกลักษณ์ในการวางผังวัดหลวงในล้านนาที่รับอิทธิพลจากพุทธศาสนาลังกาวงศ์ โดยได้นำเสนอภูมิหลังพุทธศาสนาลังกาวงศ์ในล้านนาเพื่อทำให้เห็นความร้อยเรียงเชื่อมโยงของประวัติศาสตร์ศาสนาและศิลปกรรมอันส่งผลสืบเนื่องกัน จากการศึกษาพบว่าวัดหลวงในล้านนา มักมีการประดิษฐานพระบรมธาตุสำคัญที่มักอัญเชิญมาแต่ลังกาทวีปตามคตินิยมในนิกายลังกาวงศ์ ส่งผลให้การออกแบบสถาปัตยกรรมเหล่านี้มีความเฉพาะตัวขึ้นมาก มีแนวคิดและรายละเอียดต่างจากวัดในนิกายเดิม มีการสร้างแนวแกนหลักชัดเจนซึ่งมักประดิษฐานวิหาร เจดีย์ แนวแกนรองสำหรับอาคารอื่นๆเช่นวิหารทิศ มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอย พุทธาวาส สังฆาวาสชัดเจนเกิดความนิยมวางผังวัดขนาดใหญ่ตามคติสี่สังฆาวาสดูแลเขตพุทธาวาสกลาง การออกแบบพื้นที่เหล่านี้ล้วนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงไปสู่แนวคิดตามหลักธรรมพุทธศาสนา และคติจักรวาลวิทยา ความเชื่อเรื่องผีอารักษ์และเรื่องเหนือธรรมชาติ<span class="Apple-converted-space"> </span>แฝงอยู่ด้วย ผสมผสานเป็นความเชื่อและโลกทัศน์จนก่อเกิดเป็นงานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมอันเนื่องในพุทธศาสนาลังกาวงศ์ล้านนา</p>
พระพงษ์ระวี โหลิมชยโชติกุล, พระครูสิริธรรมเมธ, พระมหาวรพงษ์ วรวํโส , พระมหาเจริญ กตปญฺโญ, พระจตุพร อติเมโท
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6271
Wed, 25 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
พัฒนาการการสร้างสรรค์งานประติมากรรมโลหะนูนสูงในล้านนา
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6399
<p class="p1"><span class="s1">บทความนี้นำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการการสร้างสรรค์งานประติมากรรม</span> โลหะนูนสูง ที่มีเทคนิคเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาวล้านนา ตั้งแต่อดีตจนมาสู่ปัจจุบัน <br />ภายใต้บริบทของศิลปะร่วมสมัย โดยเก็บข้อมูลจากงานพุทธศิลป์โลหะนูนสูง<span class="Apple-converted-space"> </span>ในวัดและพิพิธภัณฑ์ รวมถึงผลงานของศิลปินสกุลช่างบ้านวัวลาย-นันทาราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมุ่งเน้นที่พัฒนาการด้านรูปแบบ เทคนิค มิติใหม่ของวัสดุศาสตร์ ปัจจัยของพัฒนาการในงานร่วมสมัย และคุณค่าของผลงาน</p> <p class="p1">พัฒนาการและเอกลักษณ์ของงานประติมากรรมโลหะนูนสูงเกิดจากการผสมผสานทางวัฒนธรรมของคนหลายกลุ่มชาติพันธุ์ในแผ่นดินล้านนา ตั้งแต่สมัยพระเจ้า<br />กาวิละมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัจจัยด้านบวกที่สร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนงานประติมากรรมโลหะนูนสูงที่มีความอิสระในการออกแบบมากขึ้น ทั้งกลุ่มที่เป็นศาสนวัตถุ ของใช้ทั่วไป และของที่ระลึก แม้เทคนิควิธีและวัสดุจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเทคนิควิธีดั้งเดิมไว้ การมีอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกในปัจจุบันทำให้ข้อจำกัดต่าง ๆ ลดลง ส่งผลดีด้าน การผลิตที่มีต้นทุนลดลงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ และด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้เกิดศิลปินรุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ สำหรับพัฒนาการทางด้านทักษะฝีมือช่าง จากเดิมเป็นแนวอุดมคติ ก็มีลักษณะเหมือนจริงมากขึ้นและพยายามทำให้เกิดความสมบูรณ์แบบ จนมาถึงการสร้างสรรค์ขั้นสูง แล้วย้อนคืนไปสู่ความเป็นอุดมคติอีกครั้งจนงานบางชิ้นเกือบจะเป็นงานนามธรรม<span class="Apple-converted-space"> </span>อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนวัสดุ รูปแบบ และเทคนิค ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณค่าด้านรูปแบบที่สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ และคุณค่าทางด้าน ปรัชญาแนวคิดที่สะท้อนผ่านผลงานประติมากรรมโลหะนูนสูงดังปรากฏให้เห็นแล้วตั้งแต่อดีต</p>
ธีรยุทธ นิลมูล, วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6399
Thu, 26 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัย โดยใช้แนวคิดที่ได้จากการปริวรรตพระธรรมใบลานล้านนา เรื่อง กุสสะราช
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/5876
<p>การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมร่วมสมัย โดยมุ่งเน้นการผสมผสานแนวความคิดที่ได้จากวรรณกรรมล้านนา เพื่อนำมาตีความในสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัย ให้สอดคล้องกับสังคมยุคปัจจุบัน ในบทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อการปริวรรตพระธรรมใบลานล้านนา เรื่อง กุสสะราช จากอักษรล้านนาเป็นอักษรไทยวิเคราะห์เนื้อหา สรุปสาระสำคัญ แนวคิดหลักที่ปรากฏในวรรณกรรม 2) เพื่อพัฒนาแนวคิดและการตีความใหม่จากวรรณกรรมชาดก ìกุสสะราชî เชื่อมโยงแนวคิดด้านศาสนาและวัฒนธรรมล้านนาเข้ากับบริบททางสังคมร่วมสมัย ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรม 3) เพื่อสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมร่วมสมัย สะท้อนการตีความใหม่ จากวรรณกรรมล้านนา และจัดแสดงผลงานนิทรรศการศิลปะ เผยแพร่องค์ความรู้ และส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา ระเบียบวิธีวิจัย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ เช่น พระธรรมใบลานล้านนา เรื่อง กุสสะราช จำนวน 3 ผูก ผู้ปริวรรตและผู้เชี่ยวชาญภาษาล้านนา 3 คน และ กลุ่มตัวอย่างศิลปินที่นำผลงานมาศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ 3 คน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การปริวรรตและการวิเคราะห์เนื้อหาจากพระธรรมใบลานล้านนา ซึ่งเน้นเรื่อง ìความหลงî เป็นแนวคิดสำคัญ 2) การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมร่วมสมัยที่แสดงความเชื่อมโยงระหว่างแนวคิดวรรณกรรมล้านนากับชีวิตสมัยใหม่ โดยแบ่งผลงานออกเป็น 3 หัวข้อ หลงในความไม่มี หลงในความคิด และหลงในโลก 3) การจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์มีจำนวนทั้งหมด 6 ชิ้นงาน ที่ได้แสดงถึงการตีความใหม่ที่เชื่อมโยงคำสอนทางพระพุทธศาสนา กับสภาพสังคมปัจจุบัน ผลงานทั้งหมดสร้างสรรค์โดยใช้เทคนิคสีอะคริลิกบนผืนผ้าใบขนาด 120x100 เซนติเมตร สื่อผ่านมุมมองของศิลปะร่วมสมัย<span class="Apple-converted-space"> </span></p> <p> </p>
พระอภิภู บุญทาหลู่, สิริรัญญา ณ เชียงใหม, ลิปิกร มาแก้ว
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/5876
Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
หีบธรรมล้านนาสร้างสรรค์สู่การสร้างอัตลักษณ์ลวดลายเมืองลำปาง
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6092
<p class="p1">บทความวิจัยเรื่อง หีบธรรมล้านนาสร้างสรรค์สู่การสร้างอัตลักษณ์ลวดลายเมืองลำปาง มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ รูปแบบ และลักษณะเฉพาะของหีบธรรมล้านนาในวัดพื้นที่อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยด้านศิลปกรรม 2) เพื่อพัฒนาการสร้างสรรค์รูปแบบและลวดลายของหีบธรรมล้านนา โดยประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงศิลปกรรมร่วมสมัยที่สะท้อน<br />อัตลักษณ์วัฒนธรรมล้านนาของจังหวัดลำปาง 3) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับหีบธรรมล้านนาในรูปแบบที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการอนุรักษ์ โดยจัดทำกิจกรรมการศึกษาและสื่อเผยแพร่ที่เข้าถึงได้ง่ายและยั่งยืน ระเบียบวิธีวิจัย ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและปริมาณ โดยพื้นที่วิจัยได้แก่ วัดในเขตอำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง จำนวน 55 วัด และหีบธรรมล้านนา จำนวน 148 ใบ โดยศึกษาข้อมูลจากการลงพื้นที่สำรวจ เอกสาร และมีการสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 14 รูป/คน อายุช่วงระหว่าง 15-17 ปี</p> <p class="p1">ผลการวิจัยพบว่า<span class="Apple-converted-space"> </span>1) หีบธรรมล้านนา ใช้เก็บรักษาคัมภีร์ใบลานซึ่งจารจารึกด้วยอักษรธรรมล้านนา นิยมสร้างเป็นหีบไม้มีฝาเปิดปิดด้านบน รูปแบบของตัวหีบจะมีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านบนผายออก สอบเข้าด้านล่าง รูปแบบที่ค้นพบในวัดเขตอำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีทั้งหมด 6 รูปแบบ คือ (1) รูปแบบสี่เหลี่ยมคางหมู (2) รูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า (3) รูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส (4) รูปแบบทรงโกศ <br />(5) รูปแบบทรงปราสาท 6) รูปแบบตู้พระธรรม 2) มีการรวบรวมข้อมูลของรูปแบบหีบธรรมและลวดลายบนหีบธรรม แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อนำไปสร้างสรรค์ลวดลายรูปแบบใหม่ โดยนำเสนอในรูปแบบการเขียนสีจิตรกรรม ลายคำ ลายเขิน และลายทองกำมะลอ โดยใช้ลวดลายอัตลักษณ์เมืองลำปางเป็นหลัก คือ ลายไส้หมูเวียงละกอน ทั้งนี้ยังแสดงลวดลายที่ปรากฏบนหีบธรรมในรูปทรงไม้อัดที่ตัดโครงร่างเป็นรูปทรงหีบธรรม จำนวน 5 ชิ้นงาน<span class="Apple-converted-space"> </span>3) จัดกิจกรรม Workshop เพื่อเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์เกี่ยวกับหีบธรรมล้านนา กิจกรรมมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจรูปแบบ ลวดลาย และเทคนิคการสร้างสรรค์ลวดลายบนหีบธรรมล้านนา พร้อมเผยแพร่ข้อมูลจากการสำรวจ เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมบทบาทของหีบธรรมล้านนาให้คงอยู่ต่อไป</p>
พระมหาอรรถเดช จันทรเวคิน, สิริรัญญา ณ เชียงใหม่, ลิปิกร มาแก้ว
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6092
Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
สัญวิทยาในพระแผงไม้จังหวัดเชียงราย-พะเยา
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/5991
<p class="p1"><span class="s1">พระแผงไม้เป็นแผงไม้ที่ประดับพระพิมพ์อย่างเป็นระบบ จำนวนตั้งแต่ 1 องค์ขึ้นไป</span> ในอดีตสามารถพบในล้านนาได้ทั่วไป แต่ปัจจุบันการสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพระแผงไม้ลดน้อยลงไปมาก ส่งผลให้องค์ความรู้เกี่ยวกับพระแผงไม้ล้านนาอยู่ในสภาพใกล้สูญหาย บทความวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่องพระแผงไม้ล้านนา: การสร้างสรรค์และการอนุรักษ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์พระแผงไม้ในจังหวัดเชียงราย ñ พะเยา ตามทฤษฎีสัญวิทยาของ ชาร์ลส์ แซนเดอรส เพียรซ์ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรเป็นพระแผงไม้ในจังหวัดเชียงราย-พะเยาจำนวน 14 แผง ผลการวิเคราะห์พบว่า ในจำนวน 14 แผง มีจารึก 2 แผง รูปแบบพระแผงไม้ที่พบเมื่อเรียงลำดับจากมากไปน้อย ประกอบด้วย กรอบซุ้มรูปนาค 3 แผง กรอบซุ้มบรรพแถลง 2 แผง กรอบกลีบบัว 2 แผง ซุ้มทรงกรอบซุ้ม 2 แผง ส่วนซุ้มทรงเรือนแก้ว กรอบโค้งมน ซุ้มทรงปราสาท รูปทรงตุง และกรอบสามเหลี่ยมพบอย่างละ 1 แผง ทั้งนี้รูปแบบเหมือน (Iconic Mode) ของพระแผงไม้ ได้แก่ พระพิมพ์ที่สื่อถึงพระพุทธเจ้า และแผงไม้สื่อถึงคันธกุฎีหรืออาคารที่ประทับเฉพาะพระพุทธเจ้า รูปแบบบ่งชี้ (Indexical Mode) ของพระแผงไม้ปรากฏในการประดับพระพิมพ์บนพระแผงไม้ สื่อถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตที่มีจำนวนมาก พบการประดับพระพิมพ์จำนวน 28 องค์มากที่สุดเป็นวงศ์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ รูปแบบสัญญะของพระแผงไม้ (Sign, Symbol) ปรากฏในคำปรารถนาท้ายจารึก เกี่ยวข้องกับความสุข 3 ประการ คือ กามสุข ฌานสุข และนิพพานสุข</p>
ศิริศักดิ์ อภิศักดิ์มนตรี, จตุพร แก้วนิ่ม
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/5991
Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
การสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6283
<p class="p1">การสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาประวัติความสำคัญ คติ <span class="Apple-converted-space"> </span>ความเชื่อ และรูปแบบพระพุทธรูป 2) เพื่อวิเคราะห์รูปแบบพระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี และ 3) เพื่อสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี</p> <p class="p1">ระเบียบวิธีวิจัย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ เช่น พระพุทธรูปในวัด 15 วัด ของ 13 อำเภอ ในจังหวัดกาญจบุรี โดยศึกษาข้อมูลจากการลงพื้นที่สำรวจ เอกสาร สัมภาษณ์พระภิกษุ และผู้รู้ในชุมชนจำนวน 20 รูป/คน และคัดเลือกพระพุทธรูปสำคัญจำนวน 5 องค์ จากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน</p> <p class="p1">ผลการวิจัยพบว่า <span class="s1">1) จากการศึกษาประวัติความสำคัญ คติความเชื่อ และรูปแบบพระพุทธรูป พบว่า พระพุทธรูปในศิลปะอินเดีย แบ่งออกเป็นหลายสกุลช่าง ได้แก่ ศิลปะคันธาระ ศิลปะมถุรา ศิลปะอมราวดี ศิลปะคุปตะ และศิลปะวกาฏกะ-จาลุกยะ เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าสู่ประเทศไทย จึงปรากฏพระพุทธรูปในรูปแบบศิลปะไทยแต่ละยุคสมัย ได้แก่ สมัยทวารวดี สมัยศรีวิชัย สมัยลพบุรี สมัยเชียงแสน สมัยสุโขทัย สมัยศรีอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ ในส่วนการสร้างพระพุทธรูปสะท้อนคติความเชื่อในเรื่องของความสงบ ความเมตตา การหลุดพ้นจากกิเลส การขอพร โชคลาภ ความรัก และขอฝน ความศรัทธายังส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน</span></p> <p class="p1"><span class="s1">2) จากการวิเคราะห์รูปแบบพระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี พบว่า พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี แบ่งได้ 4 ลักษณะ ดังนี้ (1) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลศิลปะเขมร (2) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลศิลปะสุโขทัย (3) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลศิลปะอยุธยา และ (4) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลสมัยรัตนโกสินทร์ </span></p> <p class="p1">3) จากการสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี พบว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ได้แก่ (1) พระพุทธรูปวัดท่าเรือ (2) พระพุทธรูปวัดกาญจนบุรีเก่า (3) พระพุทธรูปวัดหนองบัว (4) พระพุทธรูปวัดอินทาราม และ (5) พระพุทธรูปวัดบ้านทวน สามารถทำให้ผู้ใช้งานเข้าสู่การปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบสามมิติ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบ และสื่อสารกับสภาพแวดล้อมนั้นได้</p> <p class="p1">สรุป การสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพระพุทธรูปในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย และสะท้อนถึงการผสมผสานศิลปะกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอนุรักษ์พุทธศิลปกรรม</p>
ปัณณวิชญ์ ซาไข
Copyright (c) 2025 วารสารพุทธศิลปกรรม
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/6283
Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700