การฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ชั้นต้นและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อผ. 508/2564)

Main Article Content

นฤมล ขณะรัตน์

บทคัดย่อ

ในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองนั้น นอกจากศาลปกครองจะตรวจสอบว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาแล้ว ยังจะต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้ฟ้องคดีได้ดำเนินการตามเงื่อนไขในการฟ้องคดีครบถ้วนหรือไม่  จากนั้น จึงจะพิจารณาพิพากษาในส่วนที่เป็นเนื้อหาของคดีต่อไป ซึ่งในการฟ้องคดีขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 นั้น หนึ่งในเงื่อนไขการฟ้องคดีสำคัญที่ศาลปกครองจะตรวจสอบเสมอ คือ ก่อนที่ผู้ฟ้องคดีจะนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง ผู้ฟ้องคดีได้ดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายตามมาตรา 42 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ด้วยการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแล้วหรือไม่  ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติมีปัญหาว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองผู้พิจารณาอุทธรณ์มักจะใช้เวลาในการพิจารณาอุทธรณ์ที่ยาวนานและกว่าจะมีการแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้ผู้รับคำสั่งทางปกครองทราบ ก็พ้นกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ชั้นต้นแล้ว เช่นนี้ศาลปกครองจะมีแนวทางในการพิจารณาพิพากษาคำสั่งของเจ้าหน้าที่ชั้นต้นและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เกิดการคุ้มครองสิทธิของผู้รับคำสั่งดังกล่าวอย่างไร และศาลปกครองจะใช้อำนาจกำหนดคำบังคับด้วยการให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ชั้นต้น โดยถือเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดคำบังคับตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ได้หรือไม่ อันจะเป็นประเด็นที่จะร่วมหาคำตอบกันในบทวิเคราะห์คดีตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อผ. 508/2564 นี้

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

How to Cite
ขณะรัตน์ น. (2023). การฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ชั้นต้นและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อผ. 508/2564). วารสารวิชาการศาลปกครอง, 23(2), 160–186. สืบค้น จาก https://so09.tci-thaijo.org/index.php/admcJ/article/view/1003
บท
บทวิเคราะห์คำพิพากษาและความเห็นทางกฎหมาย