การจัดการเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาโดยใช้ปรากฎการณ์เป็นฐานเพื่อส่งเสริม ทักษะทางสังคม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกาวิละวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม

บทคัดย่อ

การวิจัยการจัดการเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาโดยใช้ปรากฎการณ์เป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะทางสังคม ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ด้านการส่งเสริมทักษะทางสังคม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปรากฎการณ์เป็นฐานกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกาวิละวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาจากแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปรากฎการณ์เป็นฐาน สามารถส่งเสริมทักษะทางสังคมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกาวิละวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ตัวอย่างที่ทำการศึกษาในครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/6 โรงเรียนกาวิละวิทยาลัย จำนวน 39 คน ภาคการเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 4 แผน ในสาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม หน่วยที่ 4 ศาสนพิธี พิธีกรรม ตามแนวปฏิบัติของศาสนาอื่น ๆ โดยใช้วิธีการสอนการจัดการพระพุทธศาสนาแบบปรากฎการณ์เป็นฐาน และแบบประเมินทักษะทางสังคม ตัวแปรที่วัดประกอบไปด้วย 1) ด้านแสวงหาข้อมูลข่าวสาร 2) ด้านเผชิญปัญหาและแก้ไขปัญหา 3) ด้านการสื่อสาร 4) ด้านการจัดการตนเองและภาวะผู้นำ 5) ด้านการแสดงพฤติกรรมทางสังคม 6) ด้านความฉลาดทางอารมณ์ 7) ด้านการปรับตัว โดยผลจากการศึกษาประเมินจากผู้เชี่ยวชาญพบว่า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 และ 2 อยู่ในระดับมาก ส่วนแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 และ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ที่จะนำไปใช้ได้ และแบบประเมินทักษะทางสังคมมีค่าความเที่ยงตรงอยู่ที่ 1.00 ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ ระดับคะแนนการประเมินวัดทักษะทางสังคมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/6 ก่อนการเรียนรู้พระพุทธศาสนาแบบปรากฎการณ์เป็นฐาน นักเรียนมีระดับทักษะอยู่ในระดับปานกลาง ( = 2.67, SD = 0.48) ซึ่งยังมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในวิจัย หลังจากการเรียนรู้พระพุทธศาสนาแบบปรากฎการณ์เป็นฐาน นักเรียนมีระดับทางสังคมที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด( = 4.57, SD = 0.57) ซึ่งมีค่าเฉลี่ยผ่านเกณฑ์ที่ผู้วิจัยกำหนดไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้พระพุทธศาสนาแบบปรากฎการณ์เป็นฐานสามารถทำให้นักเรียนเกิดทักษะทางสังคมได้อย่างต่อเนื่องจากการประยุกต์ใช้ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมตามสภาพจริง และมีผลต่อการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันของนักเรียนได้อย่างชัดเจน จากการประเมินทักษะทางสังคมของผู้เรียนทุกด้านพบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนหลังเรียนอยู่ในเกณฑ์ระดับมากที่สุดทุกด้าน