การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากบัวหลวงของชุมชน ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
คำสำคัญ:
การพัฒนา, เศรษฐกิจฐานราก, การสร้างมูลค่าเพิ่มจากบัวหลวงบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง “การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากบัวหลวงของชุมชน ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก” มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาบริบทพื้นที่ และการจัดการทรัพยากรบัวหลวงของเครือข่ายชุมชนตำบลยกกระบัตร 2)ศึกษาความต้อง การของตลาดและแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มจากบัวหลวง 3)เพื่อพัฒนามาตรฐานของผลิ- ตภัณฑ์และการสร้างภาคีเครือข่ายร่วมพัฒนามูลค่าเพิ่มจากบัวหลวง 4)ศึกษาและพัฒนาช่ องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากบัวหลวง ใช้ระเบียบการวิจัยแบบผสม (Mixed Meth od) ทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมและยังใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ได้แก่ กลุ่มเข้าร่วมโครงการ (คนตกงานจากสถานการณ์โควิด- 19 เกษตรกรที่ต้องการอาชีพเสริม) กลุ่มไม่ได้เข้าร่วมโครงการ (ประชาชนในพื้นที่รอบข้าง) กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว กลุ่มนักท่องเที่ยว และร้านค้าในสถานที่ท่องเที่ยว เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) การศึกษาบริบทพื้นที่และการจัดการทรัพยากรบัวหลวงของเครือข่ายชุมชนตำบลยกกระบัตร ซึ่งเป็นพื้นที่ราบกว้างส่วนใหญ่เป็นชาวล้านนา ประกอบอาชีพ เกษตรกรและเลี้ยงสัตว์ รายได้ส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ในพื้นที่มีบัวหลวงเกิดขึ้นเองตามหนองน้ำธรรมชาติมีมากที่หนองจระเข้ ขนาด 800-1,200 ไร่ คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากบัวหลวงอย่างเต็มประสิทธิภาพ จากบัวหลวงที่มีมากทำให้หนองน้ำตื้นเขินจึงเกิดเป็นขยะ สร้างปัญหาให้กับชุมชนรอบหนองและชุมชนที่ใช้น้ำ ด้านช่องทางส่งเสริมการท่องเที่ยวทางชุมชนสามารถนำบัวมาประกอบอาหารต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อนำมาเป็นกิจ กรรมและเส้นทางการท่องเที่ยวตามฤดูกาล และทำการสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออิเล็ก ทรอนิกส์ เช่น เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ Facebook , Line 2)การศึกษาความต้องการข องตลาดและแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มจากบัวหลวง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ นิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ (ร้อยละ 84.44) เหตุผลที่ชอบใช้สินค้าเพื่อสุขภาพคือ ดูแล /รักษาสุขภาพตนเอง (ร้อยละ 44.74) ส่วนของบัวหลวงที่ชื่นชอบในการนำมาพัฒนาผลิต ภัณฑ์ คือ กลีบดอกบัว (ร้อยละ 21.74) รูปแบบผลิตภัณฑ์จากดอกบัวที่ชื่นชอบ คือ การแปรรูป (ร้อยละ 21.49) คุณสมบัติจากบัวหลวงที่จะตัดสินใจซื้อ คือ สรรพคุณ (ร้อยละ 19 .05) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ คือ ตนเอง (ร้อยละ 23.49) แหล่งข้อมูลที่ทำให้ทราบถึงผลิตภัณฑ์และสรรพคุณบัวหลวงคือ อินเตอร์เน็ต (ร้อยละ 42.86) ด้านแนว ทางการสร้างมูลค่าเพิ่มมี 2 รูปแบบ ดังนี้ 2.1)การนำดอกบัวหลวงมาแปรรูปเป็นอันดับแรก แล้วขยายผลไปยังส่วนอื่นๆ ของบัวหลวง 2.2)การนำบัวหลวงมาเป็นกิจกรรมเส้นทางการท่องเที่ยวเช่น เส้นทางชมดอกบัวหลวงในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน กิจกรรมพายเรือเก็บดอกบัว ไหลบัว มาประกอบอาหารพื้นถิ่นเพื่อสร้างการเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมชุมชนให้แก่ผู้มาเยือน 3) การพัฒนามาตรฐานของผลิตภัณฑ์และการสร้างภาคีเครือข่ายร่วมพัฒนามูลค่าเพิ่มจากบัวหลวง ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและภาคีเครือข่ายโดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 สร้างภาคีเครือข่ายร่วมดำเนินการโครงการ ระยะที่ 2 สร้างภาคีเครือข่ายร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มจากบัวหลวง ระยะที่ 3 หาแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกัน จนทำให้เกิดการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากบัวหลวง จำนวน 3 รูปแบบ คือ 1) แบบชง 2) แบบชาหมัก และ 3) แบบเยลลี่ 4) การศึกษาและพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากบัวหลวง มีดังนี้ 4.1) ศึกษาความต้องการของตลาด 4.2) พัฒนาผลิตภัณฑ์และศักยภา พชุมชน 4.3) การบริหารจัดการ และการบริหารงานร่วมกันของชุมชน 4.4) จัดทำแผนธุรกิจชุมชน (CBMC) และการตลาดออนไลน์ ออฟไลน์
References
พรสนอง วงศ์สิงห์ทอง. (2545). วิธีวิทยาการวิจัยออกแบบผลิตภัณฑ์. พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรทัย ก๊กผล. (2552). คู่คิด คู่มือ การมีส่วนร่วมของประชาชนสำหรับนักบริหารท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการนอร์ทเทิร์น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.