การอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในยุคดิจิทัล

Main Article Content

วิทยา ประเทโพธิ

บทคัดย่อ

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมทั่วโลกรวมถึงวัฒนธรรมไทย ยุคดิจิทัลนำมาซึ่งทั้งโอกาสและความท้าทายในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  แนวทางในการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในบริบทของโลกดิจิทัล จำเป็นต้องอาศัยแนวทางที่สร้างสรรค์ ซึ่งสามารถผสานความดั้งเดิมเข้ากับสื่อสมัยใหม่ แหล่งข้อมูลดิจิทัล พิพิธภัณฑ์ออนไลน์ และนิทรรศการเสมือนจริงเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดเก็บและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมของไทย ซึ่งช่วยให้คนรุ่นหลังสามารถเข้าถึงและเรียนรู้วัฒนธรรมไทยได้โดยไม่ถูกจำกัดด้วยระยะทางและเวลา นอกจากนี้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ยังช่วยในการอนุรักษ์ภาษาถิ่นไทยที่กำลังจะสูญหาย และส่งเสริมการแปลและบันทึกวรรณกรรมดั้งเดิมในรูปแบบดิจิทัล ส่วนการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ในโลกดิจิทัลได้รับประโยชน์จากการแพร่หลายของสื่อออนไลน์ ที่มีบทบาทสำคัญในการนำเสนอองค์ประกอบทางวัฒนธรรมไทย เช่น ดนตรีพื้นบ้าน นาฏศิลป์ อาหารไทย และเทศกาลสำคัญ ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล  แต่การใช้สื่อดิจิทัลของมรดกวัฒนธรรมอาจมี ความเสี่ยงในการบิดเบือนข้อมูล การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการนำวัฒนธรรมดั้งเดิมไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยปราศจากการให้เครดิตที่เหมาะสมทำให้ความเป็นของแท้ของวัฒนธรรมลดลง และส่งผลต่อการถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เช่น ศิลปะการพูดและงานหัตถกรรม การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องมีนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณค่าทางวัฒนธรรมของไทย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ประเทโพธิ ว. (2025). การอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในยุคดิจิทัล. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์ศึกษา, 1(1), 1–13. สืบค้น จาก https://so09.tci-thaijo.org/index.php/interjo/article/view/5819
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

กนกวรรณ ทองตำลึง ,อนุกูล พลศิริ และ เหมือนแพร รัตนศิริ. (2561). การอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญา

การละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทยภาคเหนือ. Veridian E-Journal, Silpakorn University, 11(1), 1320–1336.

กฤชญา พุ่มพิน และ ศุภวรรณ วงศ์สร้างทรัพย์. (2023). ตะกร้อ: จากการละเล่นพื้นบ้านสู่กีฬาสากล.

Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(2), 523–536.

https://doi.org/10.14456/iarj.2023.88

ณัฐนนท์ จิรกิจนิมิต และ ศาสตรา เหล่าอรรคะ. (2564). การพัฒนาคลังข้อมูลดิจิทัลมรดกทางวัฒนธรรม

จังหวัดลำพูนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม, 11(3), 251–265.

ดิษฎาพันธ์ บุตรกุลและศิริณา จิตต์จรัส. (2562). การส่งเสริมความพร้อมการดำเนินงานของศูนย์ดิจิทัล

ชุมชนเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 11(1), 241–255.

เทพรัตน์พิมลเสถียร. (2560). แนวทางการส่งเสริมทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้เศรษฐกิจดิจิทัล:

กรณีศึกษาธุรกิจเพลงในประเทศไทย. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 9(พิเศษ), 105–117.

พระเทพวชิรวิมล (สายัญ ปญฺญาวชิโร). (2024). การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นในยุคดิจิทัล: โอกาส

และความท้าทาย. วารสารวิชาการรัตนบุศย์, 6(3), 595–607. สืบค้นจาก

https://so07.tci-thaijo.org/index.php/rtnb/article/view/5692

พิสุทธิลักษณ์ บุญโต. (2025). การพัฒนาการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมดิจิทัล: บทเรียนและแนวทาง

จากพิพิธภัณฑในจังหวัดเชียงใหม่. Journal of Arts and Thai Studies, 47(1), 1–21.

https://doi.org/10.69598/artssu.2025.4065

วิษฐิตโสมรักษ์. (2020). การจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและมรดกทางวัฒนธรรม: มูลค่าทรัพย์สินและ

มรดกทางวัฒนธรรมในประเทศไทย กรณีศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารกระแสวัฒนธรรม, 21(39), 96–109. สืบค้นจาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/cultural_approach/article/view/240448

สันติ อุดมศรี. (2560). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่องการศึกษาองค์ความรู้ศิลปินดนตรีไทยแห่งภาค

ตะวันออก: ครูสงบ ทองเทศ. มหาวิทยาลัยบูรพา. สืบค้นจาก

https://buuir.buu.ac.th/bitstream/1234567890/2044/1/2562_008.pdf

อลงกต แผนสนิท , ปรารถนา มะลิไทย และวิษณุ ปัญญายงค์. (2566). ความสัมพันธ์ของปัจจัยในการ

พัฒนาศักยภาพชุมชนผ่านศูนย์ดิจิทัลชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 7(1), 270–279.

อารีวรรณ หัสดิน. (2562). การดำรงอยู่และการเปลี่ยนแปลงของการละเล่นพื้นบ้านไทยพวนในพื้นที่ภาค

กลางตอนล่างของประเทศไทย. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรธ.

Chai-Arayalert, S., Suttapong, K., & Kong-Rithi, W. (2021). Systematic approach to preservation

of cultural handicrafts: Case study on fabrics hand-woven in Thailand. Cogent Business & Management, 8(1). https://doi.org/10.1080/23311975.2021.1872889

Chirakitnimit, N., & Laoakka, S. (2020). Current conditions and problems of digital cultural

heritage archive in Thailand. Community and Social Development Journal, 21(3), 144–154. https://doi.org/10.14456/rcmrj.2020.240385

Jenkins, H. (2006). Convergence culture: Where old and new media collide. New York

University Press.

Leu, D. J., Forzani, E., Rhoads, C., Maykel, C., Kennedy, C., & Timbrell, N. (2015). The new

literacies of online research and comprehension: Rethinking the reading achievement gap. Reading Research Quarterly, 50(1), 37–59. https://psycnet.apa.org/record/2015-03493-005

Milosz, M., & K˛esik, J. (2023). Special issue on 3D information technologies in cultural

heritage preservation and popularisation—Motivations, works overview, and the future. In 3D Information Technologies in Cultural Heritage Preservation and Popularisation (pp. 1–4). Basel: MDPI. https://mdpi-res.com/bookfiles/book/6702/3D_Information_Technologies_in_Cultural_Heritage_Preservation_and_Popularisation.pdf

Moitinho de Almeida, V., Wefers, S., & Murphy, O. (2017). An interdisciplinary discussion of

the terminologies used in cultural heritage research. In A. Bentkowska-Kafel & L. MacDonald (Eds.), Collection development, cultural heritage, and digital humanities (pp. 3–18). ARC Humanity Press. https://library.oapen.org/bitstream/id/741cdc96-14f1-475a-8339-b71328800c6b/9781942401353.pdf

Rieke-Zapp, D., & Royo, S. (2017). Structured light 3D scanning. In A. Bentkowska-Kafel & L.

MacDonald (Eds.), Collection development, cultural heritage, and digital humanities (pp. 247–251). ARC Humanity Press. https://library.oapen.org/bitstream/id/741cdc96-14f1-475a-8339-b71328800c6b/9781942401353.pdf

Peechapat, W. (2022). Analysis of music industries and economics in Thailand (Doctoral

dissertation, Thammasat University). https://doi.org/10.14457/TU.the.2022.1137

Sae-Wang, R. (2017). Cultural heritage management in Thailand: Common barriers and the

possible way to survive. Silpakorn University Journal of Social Sciences, Humanities, and Arts, 17(2), 134–159. https://doi.org/10.14456/sujsha.2017.6

Siemens, G. (2005). Connectivism: A learning theory for the digital age. International Journal

of Instructional Technology and Distance Learning, 2.

http://www.itdl.org/Journal/Jan_05/article01.htm

Sirikanchana, P. (2018). Preserving cultural identity in an interconnected world: The case of

Thailand. JIABU | Special Edition on Vesak Celebrations Conference, 479–485.