การสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาประวัติความสำคัญ คติ ความเชื่อ และรูปแบบพระพุทธรูป 2) เพื่อวิเคราะห์รูปแบบพระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี และ 3) เพื่อสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี
ระเบียบวิธีวิจัย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ เช่น พระพุทธรูปในวัด 15 วัด ของ 13 อำเภอ ในจังหวัดกาญจบุรี โดยศึกษาข้อมูลจากการลงพื้นที่สำรวจ เอกสาร สัมภาษณ์พระภิกษุ และผู้รู้ในชุมชนจำนวน 20 รูป/คน และคัดเลือกพระพุทธรูปสำคัญจำนวน 5 องค์ จากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน
ผลการวิจัยพบว่า 1) จากการศึกษาประวัติความสำคัญ คติความเชื่อ และรูปแบบพระพุทธรูป พบว่า พระพุทธรูปในศิลปะอินเดีย แบ่งออกเป็นหลายสกุลช่าง ได้แก่ ศิลปะคันธาระ ศิลปะมถุรา ศิลปะอมราวดี ศิลปะคุปตะ และศิลปะวกาฏกะ-จาลุกยะ เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าสู่ประเทศไทย จึงปรากฏพระพุทธรูปในรูปแบบศิลปะไทยแต่ละยุคสมัย ได้แก่ สมัยทวารวดี สมัยศรีวิชัย สมัยลพบุรี สมัยเชียงแสน สมัยสุโขทัย สมัยศรีอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ ในส่วนการสร้างพระพุทธรูปสะท้อนคติความเชื่อในเรื่องของความสงบ ความเมตตา การหลุดพ้นจากกิเลส การขอพร โชคลาภ ความรัก และขอฝน ความศรัทธายังส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน
2) จากการวิเคราะห์รูปแบบพระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี พบว่า พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี แบ่งได้ 4 ลักษณะ ดังนี้ (1) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลศิลปะเขมร (2) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลศิลปะสุโขทัย (3) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลศิลปะอยุธยา และ (4) รูปแบบพื้นถิ่น อิทธิพลสมัยรัตนโกสินทร์
3) จากการสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี พบว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ได้แก่ (1) พระพุทธรูปวัดท่าเรือ (2) พระพุทธรูปวัดกาญจนบุรีเก่า (3) พระพุทธรูปวัดหนองบัว (4) พระพุทธรูปวัดอินทาราม และ (5) พระพุทธรูปวัดบ้านทวน สามารถทำให้ผู้ใช้งานเข้าสู่การปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบสามมิติ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบ และสื่อสารกับสภาพแวดล้อมนั้นได้
สรุป การสร้างสรรค์ศิลปะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (เมตาเวิร์ส) เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้พระพุทธรูปสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพระพุทธรูปในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย และสะท้อนถึงการผสมผสานศิลปะกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอนุรักษ์พุทธศิลปกรรม
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ฉลองเดช คูภานุมาต. (2556). แนวคิดมหาปุริสลักขณะ พระพุทธปฏิมา ศิลปะไทลื้อ เมืองน่าน. วารสารวิจิตรศิลป์. 4(2), 117-118.
ประภาส แก้วเกตุพงษ์. (2564). ประเพณีการสร้างพระพุทธรูปในประเทศไทย. Journal of Roi Kaensarn Academi. 6(5), 1 83.
พุทธทาสภิกขุ. (2509). ภาพพุทธประวัติจากหินสลักยุคก่อนมีพระพุทธรูป. กรุงเทพมหานคร: กองทุนวุฒิธรรมเพื่อการศึกษา และปฏิบัติธรรม.
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. (2469). ตำนานพุทธเจดีย์สยาม. กรุงเทพมหานคร: โสภณพิพรรฒธนากร.
พระมหามนตรี ฉนฺทสีโล และคณะ. (2563). วิเคราะห์หลักธรรมในประเพณีการทำบุญอุทิศของชาวพุทธ ในเขตเทศบาล ตำบลหาดคำ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย. สถาบันพัฒนาพระวิทยากร. 3(1), 1.
ภานุ สรวยสุวรรณ, (2555). การวิเคราะห์สุนทรียภาพในพระพุทธรูปสุโขทัยด้วยหลักการทางทัศนศิลป์. Veridian E-Journal. 5(1), 21.
ภาวิณี อุปถานา. (24 กรกฎาคม 2565). 9 เรื่องควรรู้ กับ Metaverse โลกเสมือนแห่งอนาคต. สื่บค้นเมื่อ. (10 มีนาคม 2568). แหล่งที่่มา https://www.nectec.or.th
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2535). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วรรณวิภา สุเนต์ตา. (24 มกราคม 2568). รูปแบบและพัฒนาการลวดลายประดับศิราภรณ์ศิลปะเขมรในประเทศไทย ช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17. สืบค้นเมื่อ. (10 มีนาคม 2568). แหล่งที่่มา https://decorate.su.ac.th
สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2545). อัฟกานิสถาน แหล่งผลิตพระพุทธรูปองค์แรกของโลก. กรุงเทพมหานคร: มติชน.
สุปราณี ชมจุมจัง. (2566). สถาบันวิจัยและพัฒนา. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร. 11(7), 12788.
เอกรัฐ หล่อพิเชียร. (2566). การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างมาตรฐานการศึกษาอย่างมีคุณภาพ. มหาจุฬาวิชาการ. 10(1), 312-313.
Nagaseamy, R.. (1999). Masterpieces of Early South Indian Bronzes. New Delhi: National Museum.
Surjit Mansingh. (2000). Historical Dictionary of India. New Delhi: Habitat Centre.