การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังผ่านเครือข่ายความร่วมมือของชุมชน

Main Article Content

พระครูสุธีปัญญาภรณ์
พระวิทวัส โกฎิฉกรรจ์

บทคัดย่อ

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังเป็นภารกิจที่สำคัญในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ศิลปะ และประเพณีของสังคมในอดีต จิตรกรรมฝาผนังซึ่งมักพบในวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์นั้น ไม่เพียงแต่เป็นผลงานทางศิลปะที่มีความสำคัญเท่านั้น แต่ยังเป็นเอกสารที่มีคุณค่าที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเชื่อ วิถีชีวิต และโครงสร้างสังคมของชุมชนในสมัยโบราณ อย่างไรก็ตาม จิตรกรรมเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการเสื่อมสภาพจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม การขาดแคลนทรัพยากร และความพยายามในการอนุรักษ์ที่ไม่เพียงพอ การมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในกระบวนการอนุรักษ์ได้รับการยอมรับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การอนุรักษ์เหล่านี้เกิดความยั่งยืน โดยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างชุมชน หน่วยงานรัฐบาล ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังจึงสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น


บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง และเสนอแนวทางการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในระดับชุมชน โดยเน้นบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แตกต่างกัน รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ในชุมชนและการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในกระบวนการอนุรักษ์ แนวทางที่นำเสนอได้แก่ การวางแผนร่วมกัน การติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และการสร้างความตระหนักรู้ในชุมชน เพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นหลัง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในความสำคัญทางวัฒนธรรมของจิตรกรรมฝาผนังภายในชุมชน ผ่านการร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพและความรับผิดชอบร่วมกัน จิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้จะสามารถรักษาและปกป้องไว้เพื่อคนรุ่นต่อไปในอนาคต

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พระครูสุธีปัญญาภรณ์, & โกฎิฉกรรจ์ พ. (2024). การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังผ่านเครือข่ายความร่วมมือของชุมชน. วารสารพุทธศิลปกรรม, 7(2), 119–136. สืบค้น จาก https://so09.tci-thaijo.org/index.php/barts/article/view/5453
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

กตัญชลี เวชวิมล. (2543). อิทธิพลของความชื้นและแสงแดดต่อการเสื่อมสภาพของจิตรกรรมฝาผนังในวัด. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

กรมศิลปากร. (2513). การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์กรมศิลปากร.

พรเพ็ญ บุญญาทิพย์. (2554). กระบวนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พรรณวลัย คีรีวงศ์วัฒนา และสมหมาย แจ่มกระจ่าง. (2555). การจัดการทรัพยากรทางวัฒนธรรม:การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังในภาคตะวันออก. วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม. 8(1), 33-46

พรเพ็ญ บุญญาทิพย์. (2554). กระบวนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พรเพ็ญ บุญญาทิพย์. (2556). กระบวนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง วัดโพธารามและวัดป่าเรไรย์ จังหวัดมหาสารคาม. ดำรงวิชาการ. 12(1), 75-107

มหาวิทยาลัยศิลปากร. (2554). กระบวนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วรรณิภา ณ สงขลา. (2528). ประวัติศาสตร์และการอนุรักษ์ศิลปกรรม. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุรศักดิ์ เจริญวงศ์. (2547). การจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.

อารีรัตน์ ปิยะเจริญวัฒนา. (2533). บทบาทของชุมชนในการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

Chheang, V. (2016). Community Participation in Heritage Conservation in Southeast Asia. Journal of Southeast Asian Studies, 47(2), 310-324.

Rosenbaum, W. (2013). The Role of Community in Cultural Heritage Preservation. Journal of Heritage Management, 7(1), 52-64.

MGR Online. (2554). จิตรกรรมฝาผนังชิ้นเอก กว่า 700 แห่งทั่วประเทศ อยากบอกเราว่า Help Me. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2554, จาก https://mgronline.com/celebonline/detail/9540000094904?utm_source=chatgpt.comSmith, L. (2006). Uses of Heritage. Routledge.