พัฒนาการสร้างพระพุทธรูปในพระพุทธศาสนา
Main Article Content
บทคัดย่อ
พระพุทธรูปเริ่มเป็นที่เคารพในสมัยโบราณของประวัติศาสตร์ เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานล่วงแล้วหลายร้อยปี โดยเริ่มมีการสร้างพระพุทธรูปในประเทศอินเดียสมัยโบราณ โดยเน้นการสร้างรูปสัญลักษณ์แทนพระพุทธองค์ ในสมัยนั้น การสร้างพระพุทธรูปมักถูกนำมาใช้เป็นที่เคารพและสักการะในสถานที่สำคัญ การสร้างพระพุทธรูปในพระพุทธศาสนามีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความเชื่อในพระพุทธศาสนาอย่างสำคัญ การสร้างพระพุทธรูปถือเป็นการสร้างสัญลักษณ์ที่แทนพระพุทธองค์ และมีพลังอํานาจศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถปกปักรักษาชาวบ้าน ชาวเมือง หรือผู้สักการบูชาให้อยู่เย็นเป็นสุข การสร้างพระพุทธรูปเป็นการเสริมสร้างความเชื่อและความสำคัญของพระพุทธศาสนาในชุมชนและสังคม และเป็นทางเลือกในการเชื่อมั่นและสร้างความสันติภาพใจในชีวิตประจำวันของผู้ที่สักการบูชา ดังนั้น การสร้างพระพุทธรูปไม่เพียงแต่เป็นการสร้างศิลปะ แต่ยังเป็นการสร้างศาสนาและความเชื่อที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้ที่สักการบูชาในพระพุทธศาสนาอย่างสำคัญ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมการศาสนา. (2525). ประวัติพุทธรูปปางต่างๆ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์การศาสนา.
ไขศรี ศรีอรุณ. (2546). พระพุทธรูปปางต่างๆ ในสยามประเทศ. กรุงเทพมหานคร : มติชน.
คึกเดช กันตามระ. (2535). การศึกษาวิวัฒนาการและการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของศิลปะและสังคมจาก
รูปลักษณ์พระพุทธปฏิมากร. กรุงเทพมหานคร: สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ผาสุข อินทราวุธ. (2530). พุทธศาสนาและประติมานวิทยา. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ประพันธ์ กุลวินิจฉัย. (2556). “วิเคราะห์เรื่องพระพุทธรูปในฐานะปูชนียวัตถุของชาวพุทธ.” รายงานวิจัย. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาดาวสยาม วชิรปญฺโญ. (2550). ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย. กรุงเทพมหานคร : หจก.เม็ดทราย ปริ้นติ้ง.
พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญฺโญ. (2546) กำเนิดและพัฒนาการแห่งพระพุทธรูป. ออนไลน์: แหล่งที่มา https://www.mcu.ac.th/article/detail/502 [20 มิถุนายน 2564].
พุทธทาสภิกขุ. (2509). ภาพพุทธประวัติจากหินสลัก ยุคก่อนมีพระพุทธรูป. กรุงเทพมหานคร : กองทุนวุฒิธรรม เพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2532). อรรถกถาภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาอฏฺฐกถา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, โรงพิมพ์วิญญาณ.
รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง. (2553). พระพุทธปฏิมาสยาม. กรุงเทพมหานคร : มิวเซียมเพรส.
ศักดิ์ชัย สายสิงห์. (2554). พระพุทธรูปสำคัญและพุทธศิลป์ ในดินแดนไทย. กรุงเทพมหานคร : เมืองโบราณ.สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ. (2508). ตำนานพระพุทธเจดีย์. พระนคร: กรมศิลปากร.
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และคณะ. (2545). สถานแหล่งผลิตพระพุทธรูปองค์แรกในโลก. กรุงเทพมหานคร: บริษัทพิฆเนศพิมพ์ติ้งเซ็นเตอร์จำกัด.
สิริวัฒน์ คําวันสา. (2523). พุทธศาสนาอินเดีย. กรุงเทพมหานคร: กรุงเทพสยามการพิมพ์.
หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล. (2519). ศิลปะอินเดีย. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพมหานคร: องค์การค้าของคุรุสภา.
หม่อมหลวงสุรสวัสดิ์ สุขสวัสดิ์. (2528). “การศึกษาพระพิมพ์ภาคใต้ของประเทศไทย.” วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาโบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
หม่อมเจ้าสุรภัทรดิศ ดิศกุล. (2522). ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ถึง พ.ศ.2000. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี.
Apaditya Pal, organized. (1955). Light of Asia: Buddha Sakyamuni in AsiaAngeles. Los Angeles County Museum of Art.
Orothy H.Frickle. (2517). “Crowned Buddha Images In Southeast Asia.” ศิลปะและเทศไทย เล่ม 1. ประจวบคีรีขันธ์: โรงพิมพ์ศูนย์กลางทหารราบค่ายธนะรัชต์.
R.D.Banerji. (1922). Eastem Indian. School of Mediaeval Sculpture pls.
Paul Mus. (1928). Le Buddha Pare, Son Origine Indienne, Cakyamunidans le Mohayayen. Bulletin de l’Ecole Francaise d’Extreme-Orient.
Anada K Coomaraswamy. (1965). History of Indian And Indonesian Art. New York: Dover Publication.
Cambridge University Press. Archaeological Survey of India. (1922). Annual Report. Cambridge University Press.