การศึกษาเพื่อพัฒนานโยบายและมาตรการป้องกันการรังแกผ่านพื้นที่ไซเบอร์ต่อสตรี เด็ก และเยาวชน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษารูปแบบ สาเหตุ และพฤติกรรมการรังแกผ่านพื้นที่ไซเบอร์ของสตรี เด็ก และเยาวชน รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในมิติด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี และ 2) เพื่อจัดทำมาตรการป้องกันการรังแกคุกคามผ่านพื้นที่ไซเบอร์ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมการใช้สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย การวิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ครอบครัว สถานศึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคม จำนวนไม่น้อยกว่า 40 ราย และการสำรวจด้วยแบบสอบถามเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวนไม่น้อยกว่า 1,600 คน
ผลการศึกษาพบว่า การรังแกผ่านพื้นที่ไซเบอร์มีลักษณะของการใช้อำนาจกดทับ เช่น การโพสต์ข้อความ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอในเชิงดูหมิ่น ด่าทอ หรือทำลายความมั่นใจของผู้ถูกกระทำ ส่งผลให้เหยื่อเกิดผลกระทบทั้งด้านจิตใจและสังคม โดยวิธีรับมือส่วนใหญ่มักเลือกที่จะนิ่งเฉยหรือไม่โต้ตอบ ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นเป้าถูกกระทำซ้ำ ข้อเสนอแนะจากการศึกษาชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการจัดทำมาตรการเฝ้าระวังเชิงระบบ ควบคู่กับการสร้างเสริมทักษะความฉลาดด้านดิจิทัลให้กับสตรี เด็ก และเยาวชน เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในโลกออนไลน์อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Attawell, K. (2019). Behind the numbers: Ending school violence and bullying. United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization.
Cross, D., Lester, L., & Barnes, A. (2015). A longitudinal study of the social and emotional predictors and consequences of cyber and traditional bullying victimisation. International Journal of Public Health, 60(2), 207–217.
Hinduja, S., & Patchin, J. W. (2019). Connecting adolescent suicide to the severity of bullying and cyberbullying. Journal of School Violence, 18(3), 333–346.
Kowalski, R. M., Giumetti, G. W., Schroeder, A. N., & Lattanner, M. R. (2014). Bullying in the digital age: A critical review and meta-analysis of cyberbullying research among youth. Psychological Bulletin, 140(4), 1073–1137.
Livingstone, S., & Helsper, E. (2007). Gradations in digital inclusion: Children, young people and the digital divide. New Media & Society, 9(4), 671–696.
Patchin, J. W., & Hinduja, S. (2015). Measuring cyberbullying: Implications for research. Aggression and Violent Behavior, 23, 69–74.
Slonje, R., & Smith, P. K. (2008). Cyberbullying: Another main type of bullying? Scandinavian Journal of Psychology, 49(2), 147–154. https://doi.org/10.1111/j.1467-9450.2007.00611.x
Tokunaga, R. S. (2010). Following you home from school: A critical review and synthesis of research on cyberbullying victimization. Computers in Human Behavior, 26(3), 277–287.
Yamane, T. (1967). Statistics: An introductory analysis (2nd ed.). New York: Harper and Row.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2567). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS (พิมพ์ครั้งที่ 20). กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนสามัญบิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA). (2566). รายงานพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2566. สืบค้นจาก https://www.etda.or.th/