จริยธรรมการตีพิมพ์  ในวารสารศึกษาศาสตร์์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ISSN 3027-6268 (Online)

https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JOEMSU/index

บทบาทและหน้าที่ของผู้นิพนธ์

     1. ผู้นิพนธ์ต้องมีจริยธรรมทางวิชาการในการนำเสนอผลงานอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ มีความน่าเชื่อถือ
ยอมรับได้ และต้องไม่น าผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน ไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่นที่ปราศจากการอ้างอิง
หรือนำมาเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต ผู้นิพนธ์ต้องให้เกียรติและอ้างถึงบุคคลหรือแหล่งที่มาของข้อมูล
อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานสากล
     2. ผู้นิพนธ์ต้องมีจริยธรรมในการวิจัยในมนุษย์ โดยยึดหลัก 3 ประการ ประกอบด้วย หลักความเคารพใน
บุคคล (respect for person) หลักคุณประโยชน์ ไม่ก่ออันตราย (beneficence) และหลักความ
ยุติธรรม (justice)
     3. ผู้นิพนธ์ต้องนำเสนอบทความแก่วารสาร โดยที่ไม่ขัดต่อความเท่าเทียมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ บทความ
ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม และบทความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือมีเนื้อหาที่
บิดเบือนต่อสถาบันชาติ
     4. ผู้นิพนธ์ต้องมีความรับผิดชอบต่อผลงานที่นำเสนอด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่มีอคติส่วนตนหรือ
ความลำเอียงทางวิชาการที่อาจส่งผลให้มีการบิดเบือนข้อมูลและข้อค้นพบทางวิชาการ หรือส่งผล
กระทบต่อความเท่าเทียมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ บุคคลที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่
สามารถทำความเข้าใจกับข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยที่ได้รับ และไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเองโดย
อิสระ
     5. ผู้นิพนธ์ต้องเคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผู้อื่น พร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลและขั้นตอนการ
ดำเนินงาน ยอมรับฟังความคิดเห็นและเหตุผลทางวิชาการของผู้อื่น และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข
ผลงานของตนให้ถูกต้อง
     6. ผู้นิพนธ์ต้องยินยอมให้วารสารดำเนินปรับปรุงแก้ไขคุณภาพของบทความให้เป็นไปตามมาตรฐานทาง
วิชาการก่อนตีพิมพ์เผยแพร่
     7. ผู้นิพนธ์ต้องคำนึงถึงผลกระทบจากการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงาน มีความรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งประโยชน์
ทางวิชาการในส่วนรวมกว่าประโยชน์ส่วนตน

บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการ

     1. บรรณาธิการต้องจัดหาต้นฉบับบทความโดยพิจารณาคุณภาพบทความเบื้องต้น รวมทั้งกลั่นกรอง
เบื้องต้นถึงข้อความอันเป็นการใส่ร้ายดูหมิ่นอย่างร้ายแรงต่อสถาบันชาติ
     2. บรรณาธิการต้องพิจารณาคุณภาพของบทความเบื้องต้นเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาสารคามด้วยใจเป็นกลาง และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลผู้นิพนธ์และผู้ประเมินบทความแก่
บุคคลอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ
     3. บรรณาธิการต้องดำเนินการคัดสรร ติดต่อ ประสานงานกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประเมินคุณภาพของ
บทความตามหลักทางวิชาการ
     4. หากตรวจพบการคัดลอกผลงานของผู้อื่นหรือการละเมิดลิขสิทธิ์ ในกระบวนการประเมินบทความ
บรรณาธิการต้องหยุดกระบวนการประเมินบทความดังกล่าวทันที และติดต่อผู้นิพนธ์เพื่อขอคำชี้แจง
ประกอบการพิจารณา “ตอบรับ” หรือ “ปฏิเสธ” การตีพิมพ์บทความนั้น ๆ
     5. บรรณาธิการต้องรับผิดชอบต่อการตีพิมพ์เผยแพร่บทความที่ปรากฏในวารสารสู่สาธารณะ โดยการทำ
ความตกลงกับผู้เขียนเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของแต่ละฝ่าย รวมถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายกรณีมี
การลอกเลียนผลงานทางวิชาการ หรือการละเมิดลิขสิทธิ์
     6. บรรณาธิการต้องพิจารณากลั่นกรองคุณภาพบทความที่ไม่ขัดต่อความเท่าเทียมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
บทความที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม และบทความที่ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือ
มีเนื้อหาที่บิดเบือนต่อสถาบันชาติ เพื่อพิจารณาตอบรับก่อนตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร

บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมิน

     1. เมื่อได้รับบทความจากบรรณาธิการวารสารแล้ว ผู้ประเมินบทต้องตระหนักว่าตนเองอาจมีผลประโยชน์
ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์ เช่น เป็นผู้เข้าร่วมโครงการ หรือรู้จักผู้นิพนธ์เป็นการส่วนตัว หรือเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำ
ให้ไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอย่างอิสระได้ ผู้ประเมินบทความควรแจ้งให้บรรณาธิการ
วารสารทราบและปฏิเสธการประเมินบทความนั้น ๆ
     2. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความที่ส่ง
มาให้พิจารณาแก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ
     3. ผู้ประเมินบทความต้องพิจารณากลั่นกรองคุณภาพบทความที่ไม่ขัดต่อความเท่าเทียมศักดิ์ศรีความเป็น
มนุษย์ บทความที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม และบทความที่ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจที่
คลาดเคลื่อนหรือมีเนื้อหาที่บิดเบือนต่อสถาบันชาติ เพื่อพิจารณาเห็นควรให้ยอมรับตีพิมพ์เผยแพร่ใน
วารสาร
     4. ผู้ประเมินบทความต้องประเมินคุณภาพของบทความบนรากฐานทางวิชาการ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้
แนวคิดความไม่เป็นกลางทางการเมือง ไม่ใช้ความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่มีข้อมูลรองรับมาเป็นเกณฑ์ในการ
ตัดสินบทความ
     5. ในกรณีที่ผู้ประเมินทราบว่าบทความที่กำลังพิจารณานั้น มีส่วนใดของบทความเข้าข่ายซ้ำซ้อนกับผลงาน
ผู้อื่น หรือมีการส่งบทความซ้ำเพื่อให้วารสารพิจารณา ผู้ประเมินต้องแจ้งให้บรรณาธิการของวารสาร
ทราบโดยทันที