การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสม เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการฟังและการพูดภาษาจีน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสมให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังภาษาจีน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสม 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการพูดภาษาจีน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสมกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 2 ที่เลือกเรียนวิชาภาษาจีน (เพิ่มเติม) โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล ตำ บลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 6 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสมรายวิชาภาษาจีน (เพิ่มเติม) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 10 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบความสามารถด้านการฟังและแบบทดสอบความสามารถด้านการพูดภาษาจีน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบทดสอบความสามารถด้านการฟัง เป็นปรนัย แบบเลือกตอบ จำนวน 20 ข้อ ตอนที่ 2 แบบทดสอบความสามารถด้านการพูด เป็นอัตนัย แบบปฏิบัติ จำนวน 1 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาจีน (เพิ่มเติม) โดยใช้ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.33/77.60 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำ หนดไว้ 70/70 2) ความสามารถด้านการฟัง โดยใช้ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.33 คิดเป็นร้อยละ 41.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.52 และหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 16.17 คิดเป็นร้อยละ 80.83 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.98 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 3) ความสามารถด้านการพูด โดยใช้ B-SLIM model ร่วมกับสื่อประสม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.83 คิดเป็นร้อยละ 31.94 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.98 และหลังเรียน
มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.67 คิดเป็นร้อยละ 72.22 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.52 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
Downloads
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย จำกัด.
กิดานันท์ มลิทอง. (2548). เทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการศึกษา. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด อรุณการพิมพ์.
ธัญญารัตน์ มะลาศรี และ Wei Jingru. (2560). การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาจีนสำ หรับผู้เรียนชาวไทย. วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า, 4 (3), 81-90.
ธูปทอง กว้างสวาสดิ์. (2544). คู่มือการสอนภาษาอังกฤษ. มหาสารคาม: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ธูปทอง กว้างสวาสดิ์. (2549). คู่มือการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เดือนตุลา.
ปารณัท ศุภพิมล และจารุณี มณีกุล. (2561). การใช้การสอนแบบบีสลิมเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 20(3), 130-140.
ปิ่นมณี พันหนองแสน และ Xinyu, Z. (2562, 24 พฤษภาคม). ครูผู้สอนรายวิชาภาษาจีน/Interviewer: ธนาภา สิงหลสาย. โรงเรียนสุวรรณภูมิพิทยไพศาล.
ไพริน มูหลาน สกุลเล็ก. (2556). ความรู้พื้นฐานเรื่องการสื่อสาร. Retrieved from https://www.gotoknow.org/posts/521170.
วิภาวี ไชยทองศรี. (2563). การพัฒนาความสามารถด้านการฟัง-พูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยการใช้สถานการณ์จำ ลองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 8 (1), 120-136.
ศิริดา ทาทิพย์ และปริณ ทนันชัยบุตร. (2559). การพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดภาษาเกาหลี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดการเรียนรู้แบบ B-SLIM ร่วมกับกิจกรรมบทบาทสมมติ. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ฉบับพิเศษ, 135-140.
สุภาภรณ์ ถิรศิลาเวทย์. (2562). การพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้วยกิจกรรมตามรูปแบบ B-SLIM ประกอบสื่อมัลติมีเดีย. มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม, มหาสารคาม.