GUIDELINES FOR TEACHER EMPOWERMENT UNDER THE OFFICE OF SUPHANBURI PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA 3

Main Article Content

pawana pansuwan
Boonchan Sisan
Pariyaporn Tungkunanun

Abstract

The objectives of this study were to 1) examine the needs for teacher empowerment and 2) develop guidelines for enhancing teacher empowerment in schools under the jurisdiction of the Suphanburi Primary Educational Service Area Office 3. The research was conducted in two phases. Phase 1 involved studying the needs of 12 teachers selected through purposive sampling. Semi-structured interviews were used as the data collection tool. Phase 2 focused on developing guidelines for teacher empowerment by gathering data from four school administrators and four teachers. Data were analyzed through classification, summarization, and triangulation. The research findings revealed that: 1) Teachers' needs for empowerment included motivation in their work, promotion of collaboration within the organization, leadership development, creation of a positive organizational climate, and team building. 2) The proposed guidelines for teacher empowerment consisted of principles, objectives, developmental approaches (aligned with the five key factors above), and conditions for success, which included clear policies and role definitions, well-defined goals and performance standards, continuous professional development training, adequate financial and material support, transparent and fair performance evaluations, regular mentoring and consultation, opportunities for teacher participation in decision-making, and a supportive working environment.

Downloads

Article Details

How to Cite
pansuwan, pawana, Sisan , B. ., & Tungkunanun , P. . (2025). GUIDELINES FOR TEACHER EMPOWERMENT UNDER THE OFFICE OF SUPHANBURI PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA 3. Journal of Education Mahasarakham University, 19(2), 19–33. retrieved from https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JOEMSU/article/view/5257
Section
Research Articles

References

กุลิสรา จิตรชญาวณิช. (2562). การจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จิรัชยา เหล่าเขตร์กิจ. (2561). ปัจจัยทำนายความสามารถในการตัดสินใจของพยาบาลหัวหน้าเวร โรงพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน. พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.

ชนัตพร เหี้ยมหาญ. (2562). บรรยากาศองค์การและคุณภาพชีวิตในการทำงานที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันในองค์การของข้าราชการและลูกจ้างสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม. ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลธัญบุรี, กรุงเทพฯ.

ประภาภรณ์ พรหมมณี. (2565). การพัฒนาครูในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพของนักเรียน โรงเรียนบ้านสวนสมบูรณ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2. การค้นคว้าอิสระ ครุศาสตร์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี.

ประวิต เอราวรรณ์. (2562). การวิจัยและพัฒนาองค์การโรงเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปาจรีรัตน์ อิงคะวะระ. (2561). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำแบบกระจายความเป็นผู้นำของผู้บริหาร โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

ปิยธิดา อำภาพันธ์. (2560). ความพึงพอใจของครูต่อการบริหารงานแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหาร สถานศึกษาในกลุ่มโรงเรียนพนมดงรัก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.

รัตติกรณ์ จงวิศาล. (2560). มนุษย์สัมพันธ์: พฤติกรรมมนุษย์ในองค์การ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

พชรวิทย์ จันทร์ศิริสิร. (2562). สมรรถนะและการจัดการเชิงกลยุทธ์. มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.

พรวิไล สุขมาก. (2565). หลักวิชาชีพครู=Teaching Profession. กรุงเทพฯ: ศูนย์ผลิตตำราเรียน และสิ่งพิมพ์ดิจิทัล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.

มิ่งขวัญ คุ้มวงศ์. (2566). การจัดการความรู้และความร่วมมือในองค์การที่ส่งผลต่อคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ : กรณีศึกษา คุมประพฤติเขต 4. ปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.

ยุทธกานต์ โพธิ์หนองคูณ. (2565). การพัฒนาแนวทางการสร้างทีมงานครู สำหรับสถานศึกษาใน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3. ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต., มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.

วาณิชญา มานิสสรณ์. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตในการทำงาน กับการรับรู้บรรยากาศองค์การกับความตั้งใจที่จะลาออกของพนักงาน โดยมีความผูกพันต่อองค์การ เป็นตัวแปรสื่อ. ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพ.

วาริช ลลิตลัคณา. (2559). ระดับความพึงพอใจในกระบวนการผลการปฏิบัติงาน : ศึกษาพนักงานศูนย์ปฏิบัติการเอกสารสัญญา ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน). สารนิพนธ์ การจัดการโรงพยาบมหาบัณฑิต., มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพฯ.

อนันต์ นามทองต้น. (2556). มองทางลัดสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ (พิมพ์ครั้งที่ 4). นนทบุรี: สหมิตรพริ้น ติ้งแอนด์พับลิสชิ่ง.

อรวรรณ ภัทรดำเนินสุข. (2564). ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สมุทรสงคราม. ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยลัยศิลปกร, นครปฐม.

Breeding, R.R. (2008). Empowerment as a function of contextual self-understanding. Rehabilitaaton Counseling Bulletin. 51(11), 96-106.

Davis, M.S. (2001).Teacher empowerment: A study of expanding possibilities in the elementary classroom. American Doctoral Dissertation.

Gibson, C.H.(1991).A concept analysis of empowerment. Journal of Advanced Nursing 16(3), 354-361.

Zimmerman,M.A. (2000). Empowerment Theory: Handbook of Community Psychology. New York: Academic/Plemnum.