ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ม้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย

Main Article Content

บัณฑิต แสงเสรีธรรม
นาวิน พรมใจสา
เบญจมาศ เมืองเกษม
โกมินทร์ วังอ่อน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์สภาพปัจจุบันของการท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ 2) สร้างยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ม้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และ 3) ประเมินความเป็นไปได้ของยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ม้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี งานวิจัยเชิงปริมาณ มีกลุ่มตัวอย่างคือ นักท่องเที่ยว จำนวน 400 คน เครื่องมือการวิจัยใช้แบบสอบถาม และการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับงานวิจัยคุณภาพ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยตัวแทนจากผู้นำชุมชน นักการเมืองท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย จำนวน 18 คน โดยเป็นการสัมภาษณ์และการประชุมกลุ่มย่อย ข้อมูลที่ได้ถูกวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ตามประเด็นการวิจัย และนำเสนอในรูปแบบเชิงพรรณนา


ผลการวิจัยพบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย อายุ 31-40 ปี จากภาคเหนือ มีรายได้ปานกลาง และนิยมท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว โดยสนใจแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า และประเพณีปีใหม่ม้ง ด้านการท่องเที่ยว พบว่านักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่พักเป็นอันดับแรก จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกโดยใช้แนวคิด 4Ms และ PESTEL พบว่าการท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ม้งมีศักยภาพสูงแต่ยังต้องพัฒนาในด้านบุคลากร งบประมาณ และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านนโยบาย เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม และผู้วิจัยได้นำเสนอ 5 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การเพิ่มแหล่งทุนและโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ม้งให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนในจังหวัดเชียงราย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
แสงเสรีธรรม บ., พรมใจสา น., เมืองเกษม เ., & วังอ่อน โ. (2025). ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ม้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย. วารสารภูมินิเวศพัฒนาอย่างยั่งยืน, 6(1), 14–31. สืบค้น จาก https://so09.tci-thaijo.org/index.php/AJ-SHaDa/article/view/4802
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมอนามัย. (2562). ฐานข้อมูลศูนย์อนามัยกลุ่มชาติพันธุ์ ชายขอบ และแรงงานข้ามชาติ (ศอช.). สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2567, จาก https://hhdc.anamai.moph.go.th/th/

กัลยา วานิชย์บัญชา. (2545). การวิเคราะห์สถิติ: สถิติสำหรับการบริหารและวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2565). แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงราย. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2567, จาก https://thai.tourismthailand.org/Destinations/Provinces/เชียงราย

ณพวัฒน์ ฉิมสุวรรณ และธีรติร์ บรรเทิง. (2566). กลยุทธ์การสื่อสารและแนวทางในการส่งเสริมการตลาดจุดหมายปลายทาง การท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างยั่งยืน กรณีศึกษาอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(12), 179–189.

ธนัณชัย สิงห์มาตย์ และพิมพ์พรรณ คัยนันทน์. (2566). การพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนจังหวัดมหาสารคามตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(6), 368–377.

บุญชม ศรีสะอาด.(2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

บุญญเลขา มากบุญ. (2567). สร้างแบรนด์จากเรื่องเล่า: การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อสื่อสารตราสินค้าสบู่สมุนไพรน้อยหน่า ของกลุ่มสตรีบ้านนั่งเย็น ตำบลทะเลชุบศร จังหวัดลพบุรี. วารสารร่มยูงทอง, 2(1), 45–63.

พรฟ้า สุทธิคุณ และประกอบ ใจมั่น. (2567). รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ยั่งยืนโดยชุมชน. วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 14(1), 61–86.

พระคำไพ สัญญโม (จันทรังษี). (2567). การพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจของชุมชนในตำบลแสนพันอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม. มจร การพัฒนาสังคม, 9(1), 298–321.

พระมหาสกุล มหาวีโร, พระครูปลัดณัฐกร ปฏิภาณเมธี และวราภรณ์ ชนะจันทร์ตา. (2567). การจัดการทุนทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วารสารวิชาการวิทยาลัยบริหารศาสตร์, 7(1), 104-120.

ภัครธรณ์ เอี่ยมอำภา. (2567). ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน. วารสาร มจร เพชรบุรีปริทรรศน์, 7(1), 33-47.

ศุจินันทท์ ไตรระเบียบ, ชนัญชิดา ทิพย์ญาณ และอมร หวังอัครางกู. (2567). เครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนากลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัด อำเภอละแม จังหวัดชุมพร ภายใต้แนวคิดการเสริมสร้างพลังอำนาจ. วารสารสังคมศาสตร์และศาสตร์รวมสมัย, 5(2), 93-107.

ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. (2559). กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 8 มกราคม 2568, จาก https://ethnicity.sac.or.th/database-ethnic/193/

สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2564). สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยภายหลังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19. กรุงเทพฯ: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.

สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย. (2561) แผนปฏิบัติราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย. กรุงเทพฯ: กระทรวงมหาดไทย.

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม. (2564). รายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รายเดือน พ.ศ. 2564. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

สุจิตรา จันทนา และจิราภรณ์ บุญยิ่ง. (2563). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวหมู่บ้านชุมชนในอำเภอโขงเจียม อำเภอโพธิ์ไทร และอำเภอเมืองในจังหวัดอุบลราชธานีแบบมีส่วนร่วม. วารสารวิทยาการจัดการปริทัศน์, 22(1), 183–192.

เสริมศิริ นิลดำ, กษิดิศ ใจผาวัง, จิราพร ขุนศรี, เบญจวรรณ เบญจกรณ์, ศิริพรรณ จีนะบุญเรือง, นิเวศ จีนะบุญเรือง และพีรญา ชื่นวงศ์. (2560). การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวตามรอยชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงราย. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 12(1), 26-37.

หัสนัย ผัดวงศ์ และไพฑูรย์มนต์ พานทอง. (2562). การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอัตลักษณ์ทางกลุ่มชาติพันธุ์ม้งผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์: กรณีศึกษาหมู่บ้านม้งกิ่วกาญจน์ ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย. วารสารมนุษยศาสตร์สาร, 20(2). 40-68.

Guri, E. A. I., Osumanu, I. K., & Bonye, S. Z. (2021). Eco-cultural tourism development in Ghana: potentials and expected benefits in the Lawra Municipality. Journal of Tourism and Cultural Change, 19(4), 458-476.

M. A. Kamali. (2011). A framework for process management in service oriented virtual organizations. In 7th International Conference on Next Generation Web Services Practices. (pp. 12-17). United States of America: Institute of Electrical and Electronics Engineers (IEEE).