การบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา 2) เปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนใน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) บูรณาการหลักพุทธธรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา วิธีดำเนินการวิจัยแบบผสานวิธีทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่าง คือ เยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีถึง 22 ปี โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ จำนวน 283 คน จากประชากรทั้งหมด 956 คน ผู้ให้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ได้แก่ นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา จำนวน 3 รูป นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ จำนวน 3 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 3 คน รวมจำนวน 9 รูป/คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพทั่วไปของการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชน เยาวชนมีสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง ในการรับผิดชอบต่อสังคม ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตน รวมไปถึงสิทธิของพลเมืองในประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยในฐานะพลเมืองคนหนึ่งโดยให้อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง 2) การเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนที่มีเพศ ระดับการศึกษาต่างกัน มีระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนใน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ไม่แตกต่างกัน ส่วนเยาวชนที่มีอายุต่างกัน มีระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 3) การบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนใช้หลักอปริหายธรรม 7 หมั่นประชุมกันเป็นประจำ พร้อมเพรียงกันประชุมเลิกประชุม ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ เคารพนับถือผู้ใหญ่ ไม่ลุแก่อำนาจ รักสันติภาพ ตั้งใจสนับสนุนคนดี ปกป้องคนดี มาใช้ในการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นกลไกขับเคลื่อนให้เยาวชนปฏิบัติถูกต้องเหมาะสมกับข้อปฏิบัติของพระพุทธศาสนา
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
ชญานิษฐ์ พูลยรัตน์. (2565). ยิ่งกดขี่ปราบปรามขบวนการประชาชนก็ยิ่งเด็ดเดี่ยวและเติบโต. เข้าถึงได้จาก https://www.the101.world/paradox-of-repression
ณรงค์ โพธิ์พฤกษานันท์. (2556). อาเซียนศึกษา. กรุงเทพฯ : แมคกรอ-ฮิล สถาบันพระปกเกล้า.
ธงชัย สิงอุดม. (2563). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครองท้องถิ่นตามหลักอปริหานิยธรรม. วารสาร มจร. เลย ปริทัศน์, 1(2), 94-104.
ธีรวุฒิ โศภิษฐิกุล. (2563). การเมืองการปกครองของไทย. กรุงเทพฯ : ก.พล 1996.
เปรมศักดิ์ แก้วมรกฎ. (2561). วัฒนธรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของวัยรุ่นในสังคมพหุวัฒนธรรม: กรณีศึกษา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยธนบุรี, 12(1), 217-226.
วิสุทธิ์ โพธิแท่น. (2560). คู่มือปฏิบัติหน้าที่สมาชิกรัฐสภาเรื่องการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองไทย. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า.
สมคิด พุทธศรี. (2563). นโยบายเยาวชนใหม่เพื่อการเมืองของคนหนุ่มสาว. กรุงเทพฯ : 598 Print.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2559). เยาวชนกับการมีส่วนร่วมพัฒนาประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ : สำนักการพิมพ์สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
เอกนรินทร์ ปิยะปัญญามงคล และคณะ. (2564). การมีส่วนร่วมทางการเมืองในการเลือกตั้งปี 2562 ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. วารสารสิรินธรปริทรรศน์, 22(1), 15-23.
