การพัฒนาการให้บริการประชาชน ตามหลักสังคหวัตถุธรรม ของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความพึงพอใจในการให้บริการประชาชนตามหลักสังคหวัตถุธรรมของศูนย์ดำรงธรรม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี 2) เปรียบเทียบระดับความพึงพอใจในการให้บริการประชาชนตามหลักสังคหวัตถุธรรมของศูนย์ดำรงธรรม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) เสนอแนวทางในการให้บริการตามหลักสังคหวัตถุธรรมของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ จากแบบสอบถาม กับกลุ่มตัวอย่างใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้น จำนวน 398 คน และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ.จำนวน 9 รูป/คน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการแจกแบบสอบถามกับการสัมภาษณ์ ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการให้บริการตามหลักสังคหวัตถุธรรมของของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (= 4.15, S.D.=0.867) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านอัตถจริยา (= 4.21, S.D.=0.858) รองลงมาคือ ด้านทาน ( = 4.20, S.D.=0.858) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ด้านสมานัตตตา ( = 4.04, S.D.=0.891) 2) ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชนโดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลพบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกัน มีความพึงพอใจต่อการให้บริการตามหลักสังคหวัตถุธรรม ไม่แตกต่างกัน และ 3) แนวทางในการให้บริการตามหลักสังคหวัตถุธรรมของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า 3.1) ด้านทาน ควรการให้ความรู้ ความเข้าใจ การอธิบายคำแนะนำต่าง ๆ การเสียสละเวลา 3.2) ด้านปิยวาจา ควรใช้วาจาที่ไพเราะ อ่อนหวาน สุภาพอ่อนโยน พูดด้วยความจริงใจ 3.3) ด้านอัตถจริยา ควรรับอาสาให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยความกระตือรือร้น นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก และ 3.4) ด้านสมานัตตตา ควรให้บริการที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ