การบริหารจัดการศึกษาของชุมชนสัมพันธ์โดยใช้หลักบวร
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหลักการบริหารจัดการศึกษาของชุมชนสัมพันธ์โดยใช้หลักบวร จะเห็นได้ว่าความสำคัญของหลักการบริหารจัดการศึกษาของชุมชนสัมพันธ์ที่ใช้การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งบ้าน วัด โรงเรียน หรือ “บวร” ซึ่งเป็น 3 สถาบันหลักของชุมชน เมื่อมีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ร่วมกันในกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนและที่สำคัญนั้น ต้องมาจากความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาที่นับถือ และในตัวผู้นำ เช่น เจ้าอาวาสพระสงฆ์ ปราชญ์ ชาวบ้าน หรือภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อความเข้มแข็งในการจัดการศึกษาและจัดกระบวนการเรียนรู้ บุคคลและสังคม หลักการและแนวทางในการจัดการศึกษาฐานชุมชนในรูปแบบของ “บวร” จะประกอบด้วย หลักการกระจายอำนาจไปยังประชาชน วัด และชุมชน หลักการมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชน หลักการเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง หลักการยึดชีวิตหรือผู้เรียนเป็นตัวตั้ง และหลักการจัดการศึกษาแบบบูรณาการทั้งสามระบบ โดยมีสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดร่วมทำงานกับพื้นที่ และบูรณาการทรัพยากรจากชุมชน รัฐ และท้องถิ่นสนับสนุน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กล้า ทองขาว. (2561). การจัดการศึกษาฐานชุมชน. วิทยาจารย์, 117(8), 45-48.
กันยารัตน์ แย้มศรีแก้ว. (2558). การบริหารจัดการความร่วมมือของบ้าน วัด โรงเรียน. (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชนะ สุ่มมาตย์. (2557). บ้าน วัด โรงเรียน : ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม วงจรการพัฒนาคนที่ยั่งยืน. เข้าถึงได้จาก https://shorturl.asia/yxB7Y
ธิญาดา ภัคธนาภิญโญ. (2565) การบริหารแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษาSchool Participation Administration. วารสารนวัตกรรมการบริหารการศึกษา, 1(1), 1-9.
นฤตย์ เสกธีระ. (2555, 5 สิงหาคม). คอลัมน์ แท็งความคิด. มติชนรายวัน. เข้าถึงได้จาก https://www.matichon.co.th/prachachuen/news_1847816
ประเวศ วะสี. (2555, 31 กรกฎาคม). จุดเปลี่ยนมหาวิทยาลัยไทย-จุดเปลี่ยนประเทศไทย. โพสต์ทูเดย์. น. 2.
พิณสุดา สิริธรังศรี. (2555). “การศึกษาที่ฟังเสียงประชาชน”. ในการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชน การศึกษา ฐานรากทางเลือกประเทศไทย. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
พิณสุดา สิริธรังศรี. (2557). การจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม : กรณีศึกษาโครงการนำร่องการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชนเพื่อสุขภาวะคนไทย เข้าถึงได้จาก https://www.dpu.ac.th/ces/upload/km/1392093276.pdf
วรากรณ์ สามโกเศศ และคณะ. (2553) ข้อเสนอทางเลือกระบบการศึกษาที่เหมาะสมกับสุขภาวะคนไทย. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร. (2558) เอกสารประกอบการศึกษาด้วยตนเอง : หลักสูตรผู้ช่วยผู้บริหารสถานศึกษาและ ผู้บริหารสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรฯ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2552-2559). กรุงเทพฯ : บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.(2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579. กรุงเทพฯ : บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สุริยา ฆ้องเสนาะ. (2560). การจัดการศึกษาเด็กเล็กให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทร พุทธศักราช 2560. เข้าถึงได้จาก https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ ewt/parliament_parcy/ewt_dl_link.php?nid=42029
United Nations. (1981). Department of International Economic and Social affair. Popular Participation as strategy for Program Community Level Action and Development. New York : United Nation.