ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบริบทและสภาพการณ์ของการจัดการเส้นทางโลจิสติกส์ทางการท่องเที่ยวในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกบนฐานการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ 2) ศึกษาปัจจัยสภาพปัญหาและสิ่งสนับสนุนของการจัดการเส้นทางโลจิสติกส์ทางการท่องเที่ยวในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกบนฐานการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ผู้วิจัยได้ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมผสาน สำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่ โดยใช้แบบสอบถาม และการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ บุคลากรในสถานประกอบการแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาและรวบรวม ผลการวิจัย พบว่า บริบทและสภาพการณ์ของการจัดการเส้นทางโลจิสติกส์ทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่นั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นการเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ในระยะสั้นเท่านั้น และเดินทางไปท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพปะปนไปกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น เนื่องจากยังไม่มีการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในขณะที่ปัจจัยสภาพปัญหาและสิ่งสนับสนุนของการจัดการเส้นทางโลจิสติกส์ทางการท่องเที่ยวในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกพบว่า สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกที่สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้ จำเป็นต้องมีการพัฒนาในด้านความสะอาด มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว มีความพร้อมในการป้องกันการติดเชื้อ/แพร่เชื้อจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 2019) หรือโรคระบาดอื่น ๆ นอกจากนี้สภาพแวดล้อมของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพต้องมีความสวยงามและน่าสนใจ รวมไปถึงบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพต้องสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยที่สนับสนุนส่งเสริมและปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในมุมมองของผู้ประกอบการท่องเที่ยว และบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมผ่านสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย และผลการวิเคราะห์ในงานวิจัยนี้สามารถนำไปขยายผลเพื่อสร้างรูปแบบการสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สอดคล้องกับบริบทการพัฒนาพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด. (2555). การท่องเที่ยวไทยจากนโยบายสู่รากหญ้า. เชียงใหม่: สถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ.
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. (2562). อุตสาหกรรมเป้าหมายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ. เข้าถึงได้จาก https://www.eeco.or.th/th/high-value-and-medical-tourism-industries.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564. เข้าถึงได้จาก https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=6422.
Amir, A. F., et al. (2015). Sustainable tourism development: A study on community resilience for rural tourism in Malaysia. Procedia-social and behavioral sciences, 168, 116-122.
Blackwell, R. (2007). Motivations for religious tourism, pilgrimage, festivals and events. Religious tourism and pilgrimage management: an international perspective. cabi, 103-117
Carli, V. (2008). Assessing CCTV as an effective safety and management tool for crime-solving, prevention and reduction. Retrieved from https://cipc-icpc.org/wp-content/uploads/2019/08/Assessing_CCTV_as_an_effective_safety_and_management_tool_ANG.pdf
Chantrapornchai, C., & Choksuchat, C. (2016). Ontology construction and application in practice case study of health tourism in Thailand. SpringerPlus, 5(1), 1-31.
Gelbman, A. (2019). Tourism, peace, and global stability. In Handbook of globalisation and tourism. Edward Elgar Publishing. Retrieved from https://www.elgaronline.com/display/edcoll/9781786431288/9781786431288.00022.xml
Joewono, T. B., & Kubota, H. (2006). Safety and security improvement in public transportation based on public perception in developing countries. IATSS research, 30(1), 86-100.
Khongharn, R., & Prompanit, P. (2017). Driving to the Luxury Tourism. Journal of Thai Hospitality and Tourism, 12(2), 94-104.
Kuosuwan, B. (2016). The Readiness of English Communication Skills of Tourism Employees in Bangkok for Entering the ASEAN Community. International Journal of Environmental and Science Education, 11(18), 12903-12907.
Latiff, K., & Imm, N. S. (2015). The Impact of Tourism Service Quality on Satisfaction. International Journal of Economics & Management, 9(S), 67-94
Mihajlovic, I. (2012). The impact of information and communication technology (ICT) as a key factor of tourism development on the role of Croatian travel agencies. International Journal of Business and Social Science, 3(24), 151-159.
Robbins, S. P., & Coulter, M. (1996). Management. Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Teeranon, K. (2018). Thailand’s wellness tourism: Situation and potential towards competition of ASEAN region. FEU Academic Review, 12(Supplement), 20-34.