การพัฒนาบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมืองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมือง มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียน การ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมือง และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมืองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ใช้การวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียวที่มีการทดสอบก่อน-หลังเรียน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ บทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมือง จำนวน 5 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมือง เป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยการหาประสิทธิภาพบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมือง โดยใช้สูตรคำนวณหาค่าประสิทธิภาพ E1/E2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมือง โดยใช้สถิติพื้นฐาน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการหาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมือง ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการพัฒนาบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมืองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า มีประสิทธิภาพโดยรวม (E1/E2) เท่ากับ 76.79/72.59 2) ผลการทดสอบเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมืองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนการ์ตูน เรื่อง หน้าที่พลเมืองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
References
นวลจันทร์ วิเศษ. (2552). การพัฒนาบทเรียนสําเร็จรูปการ์ตูนประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน เรื่อง การประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ผุสดี แสงอ่อน. (2555). ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการบริหารงานของโรงเรียนสวนป่าอุปถัมภ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 2. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยบูรพา.
พัฒนา พรหมณี และคณะ. (2563). แนวคิดเกี่ยวกับความพึงพอใจและการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจในงาน. วารสารวิชาการสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.), 26(1), 59-66.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2564). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. เข้าถึงได้จากhttp://kruoiysmarteng.blogspot.com/
อาภาภรณ์ อินเสมียน. (2551). การพัฒนาบทเรียนสําเร็จรูปแบบประกอบภาพการ์ตูน เรื่อง อริยสัจ 4 กลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.