ประสิทธิภาพและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอร์เรชั่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
โรงไฟฟ้าแบบโคเจนเนอร์เรชั่นใช้กังหันก๊าซเป็นเครื่องต้นกำลังในการผลิตไฟฟ้าและพลังงานความร้อนโดยใช้ประโยชน์จากไอเสียหรือความร้อนเหลือทิ้งในการผลิตไอน้ำ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพทางความร้อน และประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงไฟฟ้าแบบโคเจนเนอร์เรชั่นที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงโดยโรงไฟฟ้าในการศึกษาครั้งนี้มีการนำระบบทำความเย็นแบบอัดไอมาใช้เพื่อลดอุณหภูมิของอากาศขาเข้าที่กังหันก๊าซ ผลการศึกษาพบว่าปริมาณไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ (Gross Generation)เพิ่มขึ้น7.09%เมื่อเทียบกับการไม่ใช้ระบบทำความเย็นแบบอัดไอซึ่งประสิทธิภาพทางความร้อนของโรงไฟฟ้าแบบโคเจนเนอร์เรชั่นชนิดใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติมีค่า อยู่ระหว่าง 49.64% - 49.90% ขึ้นอยู่กับการใช้งานระบบทำความเย็น
การประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใช้หลักการประเมินวัฏจักรชีวิตตามมาตรฐาน ISO 14040-44 โดยกำหนดหน่วยการทำงานเป็นพลังงานไฟฟ้าสุทธิ 1 MJ และพลังงานความร้อนสุทธิ 1 MJ ขอบเขตการประเมินครอบคลุมตั้งแต่การได้มาซึ่งก๊าซธรรมชาติ การขนส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อ การแยกก๊าซธรรมชาติ และการผลิตไฟฟ้าและความร้อน โดยใช้โปรแกรม SimaPro 8.3.3 วิธี ReCiPe (H) ผลการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของการผลิตไฟฟ้าและความร้อน คิดเป็น 0.092 kgCO2eq. และ 0.0876 kgCO2eq. ตามลำดับ โดบผลกระทบหลักมาจากการเผาไหม้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งผลการศึกษาสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลฐานในการหาแนวทางการปรับปรุงสมรรถนะด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้ในอนาคต
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Ramadhani, F., Hussain, M. A., & Mokhlis, H. (2019). A comprehensive review and technical guideline for optimal design and operations of fuel cell-based cogeneration systems. Process, 7(12), 950. https://doi.org/10.3390/pr7120950
รวินทร์วัชร ชมพู่. (2559). การวิเคราะห์ศักยภาพการใช้พลังงานและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของโรงไฟฟ้า Co-generation ขนาด 27 MWe ในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม.วิทยานิพนธ์วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยบูรพา.
วุฒิพงศ์ จันทร์กรี. (2545). การหาสภาวการณ์ทำงานที่เหมาะสมของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม. วิทยานิพนธ์วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี.
Gvozdenac, D. (2017). High efficiency cogeneration: CHP and non-CHP energy. Energy, 125, 269-278.
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย. (2566). กำลังผลิตในระบบพลังงานไฟฟ้า. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2566 จาก https://www.egat.co.th/home/statistics-all-annual/
Komarov, I. I., Rogalev, A. N., Kharlamova, D. M., Naumov, V. Yu., & Shabalova, S. I. (2021). Comparative analysis of the efficiency of using hydrogen and steam methane reforming storage at combined cycle gas turbine for cogeneration. Journal of Physics: Conference Series, 2053(1), 012007. https://doi.org/10.1088/1742-6596/2053/1/012007
World Energy Council, (2004). Comparison of Energy Systems Using Life Cycle Assessment. ISBN 0 946121 16 8
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน. (2565). สถิติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติในไทย. สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2566 จาก https://www.eppo.go.th/index.php/en/en-energystatistics/ngv-statistic
Miller, J. M. (2017). The combined cycle and variations that use HRSGs. In Heat recovery steam generator technology (pp. 17-43). Elsevier.
Alstom Renewable (Switzerland) Ltd. (2014). Industrial steam turbines: Technical proposal (pp. 20-27). Alstom Renewable.
ธนากร พิมพ์สิน. (2560). การศึกษารูปแบบการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าแฝดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า. วิทยานิพนธ์วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.