การบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2

Main Article Content

จิรัชญา กลิ่นน้ำหอม

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ (1) เพื่อวิเคราะห์ระดับการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 (2) เพื่อวิเคราะห์ระดับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 (3) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารกับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 (4) เพื่อวิเคราะห์การบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 จำนวน 289 คน ได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเฟียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอย พหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า (1) การบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษา โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2) ระดับประสิทธิผลของสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (3) การบริหาร แบบมีส่วนร่วมกับประสิทธิผลของสถานศึกษามีความสัมพันธ์กัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01 และ (4) การบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กลิ่นน้ำหอม จ. . (2025). การบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2. วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย, 4(1), 48–60. สืบค้น จาก https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/article/view/6176
ประเภทบทความ
Research article

เอกสารอ้างอิง

ฐิตา วิหครัตน์. (2558). การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาในจังหวัดสมุทรปราการ. สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, ฉะเชิงเทรา.

ทินกร ประเสริญหล้า. (2563). การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนครเขต 1. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, สกลนคร.

ธร สุนทรายุทธ. (2551). การบริหารจัดการเชิงปฏิรูป : ทฤษฎี วิจัยและปฏิบัติทางการศึกษา. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.

ปาริชาต สมใจ. (2556). อิทธิพลของภาวะผู้นำตามสถานการณ์ของผู้บริหารสถานศึกษาต่อ ประสิทธิผลของสถานศึกษา. สังกัดสำนักงานงคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ กศ.ด. (การบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.

พอรุ้ง แสงนวล. (2563). การบริหารความเสี่ยงกับประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 9. วิทยานิพนธ์. หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.

พิณสุดา สิริธรังศรี. (2558). การจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

ภารดี อนันต์นาวี. (2563). หลักการและแนวคิดทฤษฎีทางการบริหารการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. ชลบุรี: มนตรี.

เมตต์ เมตต์การุณ์จิต. (2562). การจัดการศึกษา โดยชุมชน เพื่อชุมชนและสังคมไทย. กรุงเทพฯ : ไทยร่วมเกล้า.

รัตน์ฐาภัทร์ ธนโชติสุขสบาย. (2557). ทักษะทางวิทยาศาสตร์ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน . วิทยานิพนธ์ กศ.ด. (การบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 (2566). แผนปฏิบัติราชการประจำปี 2565.ประจวบคีรีขันธ์: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). คูมืองานการบริหารสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพคุรุสภาลาดพร้าว.

สุภัททา อินทรศักดิ์. (2561). การนำเสนอรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียน ส่งเสริมสุขภาพ.วิทยานิพนธ์ กศ.ด. (การบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา,พระนครศรีอยุธยา.

SaShkin, M. (2021). Participative management is an ethical imperative. Organization Dynamics, 12(4), 258 - 263.