แนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์สำหรับสถานศึกษา สหวิทยาเขตราชบุรีที่ 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี

Main Article Content

กรรณิกา ศิลาเรียม
สุริยะ รูปหมอก

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์สำหรับสถานศึกษา และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์สำหรับสถานศึกษา สหวิทยาเขตราชบุรีที่ 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากรในสถานศึกษา สหวิทยาเขตราชบุรีที่ 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี จำนวน 5 โรงเรียน กำหนดผู้ให้ข้อมูล สถานศึกษาละ 8 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 คน รองผู้อำนวยการ จำนวน 1 คน หัวหน้างานอาคารสถานที่ จำนวน 1 คน หัวหน้า กลุ่มสาระการเรียนรู้ 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 4 คน รวมทั้งสิ้น  40 คน ผู้ทรงคุณวุฒิที่ใช้ในการสัมภาษณ์  แนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จำนวน 6 คน และผู้ทรงคุณวุฒิประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ จำนวน 6 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ฐานนิยม ใช้เทคนิควิเคราะห์ดัชนีลำดับความต้องการจำเป็น (PNImodified)  และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ความต้องการจำเป็นของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์สำหรับสถานศึกษา ที่มีดัชนีความต้องการจำเป็นสูงที่สุด ได้แก่ ด้านกายภาพ รองลงมา คือ ด้านการมีส่วนร่วมของผู้เรียน และด้านบรรยากาศการเรียนรู้ ตามลำดับ 2) แนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์สำหรับสถานศึกษา ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ  (1) ด้านกายภาพ ผู้บริหารควรมีการวางแผน จัดสรรงบประมาณที่ชัดเจนในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนและอุปกรณ์ต่าง ๆ จัดบุคลากรให้เพียงพอ ตรวจสอบและติดตามการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (2) ด้านการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ผู้บริหารควรส่งเสริมให้นักเรียน ครูผู้สอน และชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินกิจกรรมทางการศึกษา จัดทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทในท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมของผู้เรียนอย่างแท้จริง และ  (3) ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ ผู้บริหารควรวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ กำหนดบทบาทหน้าที่ แนวปฏิบัติ มอบหมายงานอย่างชัดเจน มีการกำกับ ติดตาม ประเมินผล เพื่อยกระดับคุณภาพของผู้เรียนให้ครอบคลุมทุกด้าน  

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ศิลาเรียม ก., & รูปหมอก ส. (2025). แนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์สำหรับสถานศึกษา สหวิทยาเขตราชบุรีที่ 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี. วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย, 4(1), 19–35. สืบค้น จาก https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/article/view/5896
ประเภทบทความ
Research article

เอกสารอ้างอิง

จรัส อนุพันธ์. (2564). การศึกษาสภาพแวดล้อมทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนบัวเชดวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี. 9(2), 44-59.

ธมลวรรณ ดวนลี, สุมาลี ศรีพุทธรินทร์ และนาวี อุดร. (2566). สภาพความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1. วารสารพุทธศาสตร์ มจรอุบลราชธานี. 5(2), 795-799.

บรรจง ลาวะลี. (2560). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคไร้พรมแดน. วารสารมหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด. 6(2), 206-215.

พระปลัดเขตขันท์ คนงานดีและศักดิ์ดา งานหมั่น. (2567). การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ ที่สนับสนุนการพัฒนาผู้เรียน. วารสารนวัตกรรมการจัดการศึกษาและการวิจัย. 6(2), 471-482.

พระมหาสุวัฒน์ กิตฺติเมธี (คงยืน) และสมควร นามสีฐาน. (2565). บทบาทครูในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีความสุข. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. 7(3), 588-596.

พรทิพย์ วงศ์ไพบูลย์. (2560). การเรียนรู้เชิงรุกและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Active Learning). วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร. 8(2), 327-336.

รัตนา กาญจนพันธุ์. (2563). การจัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ของผู้เรียน. วารสารรามคำแหง ฉบับคณะศึกษาศาสตร์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 2(1), 16-23.

สุธีรา งามเกียรติทรัพย์. (2560). การสร้างบรรยากาศในการเรียนให้เกิดความคิดสร้างสรรค์. วารสารอนัมนิกาย. 7(1), 23-34.

สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม. (2566). แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570). กรุงเทพฯ : กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม.

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังแห่งชาติ. (2564). (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 “พลิกโฉมประเทศไทยสู่ สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน”. กรุงเทพฯ : ผู้แต่ง.

อภิบาล สุวรรณโคตร์และสมหญิง จันทรุไทย. (2563). การบริหารจัดการสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของสถานศึกษา ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาหนองบุญมาก 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 2. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. 7(7), 73-86.

อุกฤษฎ์ ดอนบรรเทา และ เอกราช โฆษิตพิมานเวช (2567). การบริหารจัดการสถานศึกษายุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ. วารสารมณีเชษฐาราม วัดจอมมณี, 7(2), 529-545.

Cronbach, L. J. (1978). Essentials of Psychological Testing. (3rd ed.). New York: Harper and Row.

Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3): 607 – 610.

Likert, R. (1932). The method of constructing an attitude scale. Archives of Psychology, 140, 44-53.

Newby, T. J., Stepich, D. A., Lehman. J. D., & Rusell, J. D. (2000). Instruction technology for teaching learning (2nd ed.). New Jersey: Prentice Hall.

Richardson & Mishra. (2017). Scale Support of Creativity in A Learning Environment. United States: Michigan State University, MSU.