แนวทางการบริหารวิชาการตามหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียนเครือข่ายพัฒนาคุณภาพ การศึกษาที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความต้องการความจำเป็นของการบริหารวิชาการตามหลัก ธรรมาภิบาลของโรงเรียนเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารวิชาการตามหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียนเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ โรงเรียนเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 จำนวน 14 โรงเรียน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น โดยใช้ขนาดของโรงเรียนเป็นชั้น ผู้ให้ข้อมูล โรงเรียนละ 5 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน และครูผู้สอน จำนวน 4 คน รวมทั้งสิ้น 70 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) ความต้องการจำเป็นของการบริหารวิชาการตามหลักธรรมาภิบาล ที่มีดัชนีความต้องการจำเป็นสูงที่สุด ได้แก่ การวัดและประเมินผลตามหลักธรรมาภิบาล รองลงมา คือ การจัดการบริหารเกี่ยวกับการเรียนการสอนตามหลักธรรมาภิบาล การจัดดำเนินงานเกี่ยวกับการเรียนการสอนตามหลักธรรมาภิบาล และการวางแผนเกี่ยวกับงานวิชาการตามหลักธรรมาภิบาล ตามลำดับ 2) แนวทางการบริหารวิชาการตามหลักธรรมาภิบาล ประกอบด้วย 4 ด้าน คือ (1) ด้านการวัดและประเมินผล ผู้บริหารควรส่งเสริมให้ฝ่ายวิชาการและครูร่วมกันพัฒนากระบวนการวิเคราะห์ผลการเรียนที่มีประสิทธิภาพ (2) ด้านการจัดการบริหารเกี่ยวกับการเรียนการสอน ผู้บริหารควรมีกระบวนการนิเทศที่ชัดเจน มีความต่อเนื่องและเป็นระบบ โดยเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม (3) ด้านการจัดดำเนินงานเกี่ยวกับการเรียนการสอน ผู้บริหารควรส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหลักสูตรและจุดเน้นของประเทศ (4) ด้านการวางแผนเกี่ยวกับงานวิชาการ ผู้บริหารควรวางแผนพัฒนา และนำหลักสูตรไปใช้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและสังคม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2550). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.
กัลย์วิสาข์ ธาราวร. (2559). การประเมินความต้องการจำเป็นของครูเพื่อพัฒนาความสามารถในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 11(3), 374.
ขวัญชัย ขัวนา และ ธารทิพย์ ขัวนา. (2562). การจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษ
ที่ 21. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 16(73), 13.
เครือวัลย์ ตุลวิโรฒ, ยุทธพงษ์ อรัญกานนท์ และ บังอร แก่นจันทร์. (2566). การพัฒนาสมรรถนะการจัด
การเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามการรับรู้ของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม. การวิจัยสหสาขาวิชาชีพ, 1(7), 2.
จิรศักดิ์ สุภารส และ ชิดชัย สนั่นสียง. (2560). การศึกษาการบริหารงานวิชาการตามหลักธรรมาภิบาลของ
ผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 2. วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า, 4(1), 50.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2564). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 15). กรุงเทพฯ : ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
ธันยาภรณ์ สังข์เมือง. (2565). ความต้องการจำเป็นและแนวทางการบริหารวิชาการเพื่อยกระดับคุณภาพ
การศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1. การค้นคว้าอิสระ
การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร.
นวลอนงค์ โพธิ์ช่วย. (2561). การพัฒนามาตรฐานการวัดและประเมินผลของครูประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิจัย วัดผลและสถิติการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
นุชเรศ คำดีบุญ. (2564). การพัฒนาแนวทางการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต 4. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร
และพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2553). การบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพฯ : ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.
พินิจ เชื้อแพ่ง. (2559). การศึกษาสภาพการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัย
ราชภัฏเชียงราย, 9(21), 140.
ภัทรา โง้วอมราภรณ์. (2558). การศึกษาการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการในโรงเรียนประถมศึกษาเอกชนที่ได้รับรางวัลพระราชทาน. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 10(3), 614.
ศศิธร ชุตินันทกุล. (2561). การวัดและประเมินผลทางการศึกษากับการปรับเทียบคะแนน. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 2(2), 107.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1. (2567). ระบบบริการข้อมูลภาครัฐ BIG DATA.
เข้าถึงได้จาก https://smart.ratchaburi1.go.th/bigdata/index.php, 19 มิถุนายน 2567.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม พ.ศ.2566-2570. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม (พ.ศ.- 2566-2570). ราชกิจจานุเบกษา, เล่มที่ 139 ตอนพิเศษ (1 พฤศจิกายน 2565).
สุวิจักขณ์ ขันสัมฤทธิ์ และ ชัยยศ เดชสุระ. (2564). แนวทางการบริหารวิชาการตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพระนครศรีอยุธยา. วารสารธรรมเพื่อชีวิต, 30(4), 301-316.
สุวิมล ว่องวานิซ. (2562). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อมรรัตน์ เตชะนอก. (2563). การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศในศตวรรษที่ 21. วารสารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น, 5(6), 367-372.
Cronbach, L. J. (1978). Essentials of Psychological Testing. (3rd ed.). New York: Harper and Row.
Graham, J., Bruce, A., & Plumtree, T. (2003). Principles for Good Governance in the 21st Century. Institute on Governance, Ottawa.
Gregory, R. J. (2015). Psychological testing: history, principles, and applications. (7th ed.). Boston: Pearson.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, R. (1932). The method of constructing an attitude scale. Archives of Psychology, 140,
-53.