การสร้างความร่วมมือในการจัดการปัญหาขยะทะเล กรณีศึกษาชายหาดบางแสน เทศบาลเมืองแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบทบาทความร่วมมือและปฏิสัมพันธ์ของตัวแสดงที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง 2) ศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาขยะทะเลของรัฐบาลที่นำไปสู่การดำเนินการในระดับท้องถิ่น 3) เงื่อนไขและปัจจัยที่ส่งผลต่อร่วมมือในการแก้ไขปัญหาขยะทะเลบริเวณชายหาดบางแสน และ 4) เสนอรูปแบบความร่วมมือที่มีประสิทธิผลในการจัดการปัญหาขยะทะเลในระดับพื้นที่ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพในการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การเก็บข้อมูลจากการรวบรวมเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การสังเกตอย่างมีส่วนร่วม และการสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัย พบว่า 1) ประเทศไทยให้ความสำคัญกับประเด็นขยะทะเลและกำหนดกรอบแนวทางในการดำเนินงานไว้ในแผนสำคัญ ๆ ของประเทศ รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายในระยะยาว 2) การจัดการขยะทะเลบริเวณชายหาดบางแสน มีตัวแสดงหลักที่เข้ามาเกี่ยวข้อง 8 ตัวแสดงครอบคลุมหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชนและสถาบันการศึกษา ซึ่งระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินการร่วมกันอย่างหลวม ๆ ในลักษณะครั้งคราว ผ่านการรวมกลุ่มย่อย ๆ ตามโครงสร้างการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน และการรวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการที่กำหนดบทบาทหน้าที่และระดับความร่วมมือจากเงื่อนไขหรือข้อบังคับที่ใช้เฉพาะกลุ่ม 3) เงื่อนไขและปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการสร้างร่วมมือ 4 ปัจจัยหลัก คือ 3.1) การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับชุมชนที่เข้มแข็ง 3.2) การเสริมสร้างการทำงานร่วมกันที่ชัดเจนและมีความต่อเนื่อง 3.3) การมีผู้นำที่เข้มแข็งและเชื่อมโยงเครือข่าย และ 3.4) การบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงาน และ 4) รูปแบบการจัดการปัญหาขยะทะเลในระดับพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพควรมีการดำเนินการ 2 รูปแบบควบคู่กัน คือ การบริหารจัดการบนฐานแห่งขอบเขตภาระหน้าที่ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับชุมชนที่เข้มแข็ง เพื่อส่งเสริมให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินการในระยะยาว
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ และคณะ. (2560). วิกฤตขยะทะเลไทย...ใครว่าเรื่องเล็ก. ประชาคมวิจัย, 23(136), 2-6.
วสันต์ เหลืองประภัสร์ และคณะ. (2557). การสังเคราะห์ตัวแบบเชิงทฤษฎีและการบริหารจากผลการดำเนินโครงการวิจัยเพื่อพัฒนากลไกความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันของคนในพื้นที่. (รายงานการวิจัย). สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
วิจารย์ สิมาฉายา. (2561). แนวทางการบริหารจัดการขยะพลาสติก เพื่อส่งเสริมการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืนของประเทศไทยในอนาคต. เอกสารประกอบงานเสวนา เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการขยะพลาสติก เพื่อส่งเสริมการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืนของประเทศไทยในอนาคต วันที่ 11 กันยายน 2561. (อัดสำเนา)
สุวัจน์ ธัญรส. (2549). มลพิษทางทะเลและชายฝั่ง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
โสภารัตน์ จารุสมบัติ. (2560). กลไกเชิงสถาบันในการบริหารจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน. วารสารผู้ตรวจการแผ่นดิน, 10(2), 101-133.
Agranoff, R. (2007). Managing within Networks: Adding Value to Public Organizations. Washington, DC : Georgetown University Press.
The NOAA Marine Debris Program. (2552). The Educator’s Guide to Marine Debris – Southeast and Gulf of Mexico. แปลโดย ฐิตินันท์ ศรีสถิต. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
Weyler, R. (2560). วิกฤตขยะพลาสติกในมหาสมุทร. เข้าถึงได้จาก http://www. greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/60571/