ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ และ 2) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง จัดเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ในระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม 2565 เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีกำหนดอัตราส่วน 1:15 ตัวแปรพยากรณ์ที่ศึกษา ได้ผู้สูงอายุในพื้นที่จำนวน 710 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา การแจงแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นพหุคูณด้วยวิธีเพิ่มตัวแปรอิสระแบบขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยภายในส่วนใหญ่มีดัชนีมวลกาย ปกติ ร้อยละ 56.3 มีโรคประจำตัว ร้อยละ 62.5 มีการใช้ยา ร้อยละ 65.8 อาบน้ำได้ ร้อยละ 96.3 ไม่มีปัญหาการทรงตัว ร้อยละ 89.2 การมองเห็นชัดเจนร้อยละ 73.3 ภาวะสุขภาพดี 59.6 ปัจจัยสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่ พบว่า ที่พักอาศัยบ้านสองชั้น ร้อยละ 54.2 มีราวบันได 1 ข้าง ร้อยละ 56.2 พื้นบ้านปูกระเบื้องมันลื่น ร้อยละ 68.8 มีห้องน้ำภายในบ้าน ร้อยละ 77.1 เป็นส้วมชักโครก ร้อยละ 95.8 ห้องน้ำไม่มีราวเกาะ ร้อยละ 85.4 และ 2) ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการหกล้มของผู้สูงอายุ คือ อายุ ดัชนีมวลกาย ปัญหาการทรงตัว การมองเห็นภาวะสุขภาพ และราวบันได สามารถใช้ทำนายการหกล้มของผู้สูงอายุตำบลแม่อิงที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 ได้สมการทำนาย คือ การหกล้ม = 12.443 + 1.228 (อายุ) + 1.958 (การทรงตัว) + 2.323 (การมองเห็น) - 2.313 (ดัชนีมวลกาย) + 2.181 (ภาวะสุขภาพ) - 3.993 (ราวบันได) การป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุควรเน้นการดูแลในผู้มีอายุมาก มีปัญหาการทรงตัว ปัญหาการมองเห็น ดัชนีมวลกาย ภาวะสุขภาพและการมีราวบันได
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
เปรมกมล ขวนขวาย. (2550). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการหกล้มของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชน. (วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
เพ็ญรุ่ง วรรณดี และคณะ. (2563). การศึกษาสถานการณ์การหกล้ม ในผู้สูงอายุในชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9: วารสารส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม, 14(34), 126-141.
กนกวรรณ เมืองศิริ และคณะ. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ จังหวัดชลบุรี. วารสารมหาวิทยาลัยนเรศวร, 25(4), 23-33.
กนกอร ทองกลึง. (2560). การศึกษาปัจจัยสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเพื่อลดความเสี่ยงต่อการหกล้ม ในผู้สูงอายุ:กรณีศึกษาชุมชนหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร. Veridian E-Journal, Silpakorn University (Humanities, Social Sciences and arts), 10(2), 2909-2921.
นงนุช วรไธสง. (2551). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการหกล้มในผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยอยู่ในชุมชน. (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
วรฤทัย จันทร์วัง. (2558). การหกล้มในผู้สูงอายุไทย. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา ประชากรศาสตร์). วิทยาลัยประชากรศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Berry, S. D. & Miller, R. R. (2008). Falls: epidemiology, pathophysiology, and relationship to fracture. Current osteoporosis reports, 6(4), 149-154.
Cavalcante, A. L. P., Aguiar, J. B. D. & Gurgel, L. A. (2012). Fatores associados a quedas em idosos residentes em um bairro de Fortaleza, Ceará. Revista Brasileira de Geriatria e Gerontologia, 15, 137-146.
Dhargave, P. & Sendhilkumar, R. (2016). Prevalence of risk factors for falls among elderly people living in long-term care homes. Journal of clinical gerontology and geriatrics, 7(3), 99-103.
Gang, L., Sufang, J. & Ying, S. (2006). The incidence status on injury of the community-dwelling elderly in Beijing. Chi J Prev Med, 40(1), 37.
Ku, Z., Rong, Y., Xu, M., Liu, T. & Han, H. (2013). Full printable processed mesoscopic CH3NH3PbI3/TiO2 heterojunction solar cells with carbon counter electrode. Scientific reports, 3(1), 1-5.
Lehman, C.A. & Poindexter, A. (2006): The aging population. In K.L., Maul (Ed), Gerontological nursing: competencies for care. Sudbury, MA : Jones and Bartlett.
Li, I. F., et al. (2016). Elderly Taiwanese's intrinsic risk factors for fall-related injuries. International journal of gerontology, 10(3), 137-141.
Pallant, J. (2020). SPSS survival manual: A step by step guide to data analysis using IBM SPSS. UK. : McGraw-hill education.
Ping, Y. & Xiaohua, W. (2012). Risk factors for accidental falls in the elderly and intervention strategy. Journal of Medical Colleges of PLA, 27(5), 299-305.
Wannian, L., Ying, L., Xueqing, W. & Chin, J. (2004). An epidemiological study on injury of the community-dwelling elderly in Beijing. Chin J Dis Control Prev, 8(6), 489-92.
World Health Organization. (2008). World health statistics 2008. Retrieved from https://www.who.int/docs/default-source/gho-documents/world-health-statistic-reports/en-whs08-full.pdf
Wu, G. (2013). Functional amino acids in nutrition and health. Amino acids, 45(3), 407-411.
