การศึกษาออกแบบกิจกรรมนันทนาการบนฐานทรัพยากรประเภทถ้ำ

Main Article Content

คมเชษฐา จรุงพันธ์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนะแนวทางการจัดการถ้ำและภูมิประเทศเขาหินปูน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อการท่องเที่ยว โดยใช้วิธีการประเมินระดับศักยภาพ (ERRP), มาตรฐานคุณภาพ, ช่วงชั้นโอกาสด้านนันทนาการ (ROS) และขีดความสามารถในการรองรับได้ด้านกายภาพ (PCC) เพื่อศึกษารูปแบบกิจกรรมนันทนาการ ของถ้ำต้นแบบนำร่อง 22 แห่ง ในพื้นที่10 อุทยานแห่งชาติ ท้องที่ 9 จังหวัด ครอบคลุม 4 ภูมิภาคของประเทศไทย ผลการวิจัย พบว่า ถ้ำต้นแบบนำร่องส่วนใหญ่ ร้อยละ 50 มีรูปแบบ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (ET) ที่มีระดับศักยภาพปานกลาง (M) มีมาตรฐานคุณภาพอยู่ในระดับดี (gif.latex?\bigstar&space;\bigstar&space;\bigstar) ซึ่งอยู่ในเขตธรรมชาติกึ่งสันโดษใช้ยานยนต์ (SPM) โดยแนวทางการจัดการเพื่อพัฒนาพื้นที่สำหรับรองรับกิจกรรมนันทนาการ นั้นจะต้องคำนึงถึงเขตช่วงชั้นโอกาสด้านนันทนาการ (ROS) และขีดความสามารถในการรองรับได้ด้านกายภาพ (PCC) ซึ่งมีความสอดคล้องกับเขตการจัดการพื้นที่ (Zoning) ตามแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติแห่งนั้น สำหรับด้านการท่องเที่ยว หากทุกคนมีความรับผิดชอบและปฏิบัติตามแนวทางและมาตรการตามหลักการสากลของการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) โดยคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อการท่องเที่ยวตามที่ทางราชการกำหนดก็จะสามารถท่องเที่ยว ในแหล่งนันทนาการประเภทถ้ำและภูมิประเทศเขาหินปูน รวมถึงแหล่งนันทนาการประเภทต่าง ๆ ในอุทยานแห่งชาติ ได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จรุงพันธ์ ค. . (2023). การศึกษาออกแบบกิจกรรมนันทนาการบนฐานทรัพยากรประเภทถ้ำ. วารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์, 1(2), R0900. https://doi.org/10.14456/journal-rabij.2023.9
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมการท่องเที่ยว. (2557). คู่มือการประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติประเภทถ้ำ. เข้าถึงได้จาก https://www.dot.go.th/ebooks/ebooks-view/420

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. (2554). รายงานฉบับสมบูรณ์ข้อมูลพื้นฐานโครงการจัดทำแผนการจัดการพื้นที่กลุ่มป่าคลองแสง-เขาสก. (อัดสำเนา)

คมเชษฐา จรุงพันธ์ และคณะ. (2554). การจำแนกช่วงชั้นโอกาสทางด้านนันทนาการในกลุ่มป่าคลองแสง เขาสก. กรุงเทพฯ: ส่วนศึกษาและวิจัย.

ดรรชนี เอมพันธุ์ และคณะ. (2547). คู่มือการจำแนกเขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยหลักการช่วงชั้นโอกาสทางด้านนันทนาการ. กรุงเทพฯ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวนศาสตร์.

ดรรชนี เอมพันธุ์ และคณะ. (2549). ข้อมูล การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ในรายงานฉบับสุดท้ายสาระสำคัญประกอบแผนแม่บทเพื่อพัฒนาโครงข่ายการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จังหวัดเชียงใหม่. กรุงเทพฯ: องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน.

ดรรชนี เอมพันธุ์. (2546). ระบบการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ. ใน เอกสารประกอบการสอน วิชา 308424 การวางแผนจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ. กรุงเทพฯ: ภาควิชาอนุรักษวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ดรรชนี เอมพันธุ์. (2547). การจัดการการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ. ใน เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 308511 หลักนันทนาการและการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ. กรุงเทพฯ: ภาควิชาอนุรักษวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

นภวรรณ ฐานะกาญจน์ และคณะ. (2549). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (เล่มที่ 1) โครงการ ระบบสนับสนุนการวางแผนการจัดการแหล่งนันทนาการทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน ระยะที่ 1. (รายงานการวิจัย). สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.): คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

เบญจมาศ ณ ทองแก้ว และคณะ. (2560). ศักยภาพและแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตำบลคันธุลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 9(2), 106-121.

รัตนา ลักขณาวรกุล. (2554). การจัดการถ้ำเพื่อการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ. กรุงเทพฯ: ส่วนนันทนาการและสื่อความหมาย สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.

วิมลสิทธิ์ หรยางกูร. (2537). พฤติกรรมมนุษย์กับสภาพแวดล้อม: มูลฐานทางพฤติกรรมเพื่อการออกแบบและวางแผน. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักอุทยานแห่งชาติ. (2563). นโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: ส่วนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.