บทบาทสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

Main Article Content

พระสัมฤทธิ์ ปริปุณฺโณ
พระครูปลัดนิเวช ชินวโร
พระครูศรีปริยัติยารักษ์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความคิดเห็นต่อบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 2) เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นที่มีต่อบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) ประยุกต์หลักพุทธธรรมในการส่งเสริมบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน เป็นการวิจัยแบบผสาน ด้วยวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน ผู้ให้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ จำนวน 9 รูป/คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับความคิดเห็นต่อบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{X}=3.54) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านการมีส่วนร่วม (gif.latex?\bar{X}=3.60) ด้านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (gif.latex?\bar{X}=3.58) ด้านการแสดงความคิดเห็น (gif.latex?\bar{X}=3.52) อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการรับรู้ข่าวสาร (gif.latex?\bar{X}=3.47) อยู่ในระดับปานกลาง 2) การเปรียบเทียบบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย พบว่า ประชาชนที่มีอายุและรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนประชาชนที่มีเพศ ระดับการศึกษา และอาชีพต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่แตกต่างกัน 3) การประยุกต์หลักพุทธธรรมในการส่งเสริมบทบาทของสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนใช้หลักอปริหายธรรม 7 ได้แก่ การประชุมกันเนืองนิตย์ พร้อมเพียงกันประชุม การไม่บัญญัติหรือไม่ล้มเลิกข้อบัญญัติตามอำเภอใจ การเคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา การให้เกียรติและคุ้มครองสิทธิสตรี การส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม การอารักขา คุ้มครอง ปกป้องอันชอบธรรม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พระสัมฤทธิ์ ปริปุณฺโณ, พระครูปลัดนิเวช ชินวโร, & พระครูศรีปริยัติยารักษ์. (2024). บทบาทสื่อออนไลน์ต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์, 2(1), R0874. https://doi.org/10.14456/journal-rabij.2024.3
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

นันทนา นันทวโรภาส. (2554). การสื่อสารทางการเมืองในประเทศไทย. ใน รวมบทความวิชาการฉบับพิเศษ 7 ปี. วิทยาลัยการสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก. กรุงเทพฯ : แอ๊ปป้า พริ้นติ้ง กรุ๊ป.

ประคอง มาโต. (2564). การส่งเสริมความนิยมทางการเมืองของประชาชนที่มีต่อนักการเมืองในจังหวัดอุทัยธานี. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระชินกร สุจิตฺโต (ทองดี). (2564). การบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการสื่อสารทางการเมืองสำหรับประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาพิพัฒพงศ์ ฐิตธมฺโม (วงษ์ชาลี). (2564). การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการสื่อสารของนักการเมืองไทย. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาเอกกวิน ปิยวีโร (อะซิ่ม). (2564). การนำหลักพุทธธรรมาภิบาลไปประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

มายแชร์ ประเทศไทย, (2564). Growing up as Digital Natives. วารสารสิรินธรปริทรรศน์, 22(1), 15-25.

สาลินี รักกตัญญู. (2564). การส่งเสริมบทบาทของนักการเมืองสตรีท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างการบริหารจัดการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตภาคเหนือตอนบน. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สุรพงษ์ ชัยนาม. (2545). อาเซียนในสหัสวรรษใหม่. กรุงเทพฯ : เต็มร้อย.

เสถียร เชยประทับ. (2551). การสื่อสารการเมืองและประชาธิปไตยที่พัฒนาแล้ว. กรุงเทพฯ : วีพริ้น (1991).

เอกนรินทร์ ปิยะปัญญามงคล. (2564). แนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองในการเลือกตั้งของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, 7(6), 348-355.