พฤติกรรมการออมและการใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพของผู้สูงอายุในอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการออมและเหตุผลการออม 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการออมและเหตุผลการออม และ 3) ศึกษาพฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพของผู้สูงอายุในอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุในอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก จำนวน 361 คน ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา และ สถิติสหสัมพันธ์ ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้สูงอายุมีพฤติกรรมการออมได้แก่ การฝากสหกรณ์และฝากธนาคารเพื่อการเกษตร (ธกส.) ระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.02 รองลงมาคือ การออมกรมธรรม์ระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.66 การซื้อสลากระดับปานกลางมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.90 และการออมอสังหาริมทรัพย์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.67 ตามลำดับ 2) เหตุผลการเลือกพฤติกรรมการออมเพื่อการดำรงชีพของผู้สูงอายุได้แก่ ไม่มีความเสี่ยงและเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.76 และ 3.76 ตามลำดับ รวมถึงได้รับผลตอบแทนสูงระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.49 และสามารถลดหย่อนภาษีได้ระดับปานกลางมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.85 3) ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการออมและเหตุผลการออม มีความสัมพันธ์อยู่ในระดับมากและเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 4) พฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพ พบว่า ผู้สูงอายุมีค่าใช้จ่ายเพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉินและเพื่อดูแลครอบครัวระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31 และ 4.22 ตามลำดับ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลระดับมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.23 นอกจากนั้นแล้วยังมีค่าใช้จ่ายเพื่อใช้สอยทั่วไประดับปานกลางมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.95 และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อทรัพย์สินระดับน้อยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.25
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
ญภัทรา ภูรภัทเกียรติกุลและธีรเดช สนองทวีพร. (2562). สภาวะการการออมของ ประชาชนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวัยผู้สูงอายุ. วารสารวิชาการและวิจัย มทร.พระนคร สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 4(2), 1-14.
ธนาวุฒิ ธีรกิติกรและสมศรี เวิ่นทอง. (2563). แนวทางการออมเงินเพื่อเตรียมความพร้อมในการเกษียณการทำงานของประชากรในภาคกลาง. วารสารบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม, 2(2), 40-58.
พระนิทัศน์ ธีรปญฺโญ (วงศ์วังเพิ่ม), พระวุฒิพงษ์ แก้วแกมดาและปรัชญา มีโนนทองมหาศาล. (2565). การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัย. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 18(83), 1-9.
พูนทรัพย์ เกตุวีระพงศ์. (2020). การพัฒนาศักยภาพของการออมและการประกอบอาชีพ ของผู้สูงวัยเพื่อการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนในภาคเหนือตอนบน.วารสารธรรมวัตร, 1(1), 39-48.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2565). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2564. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
ลลดา ลวนะลาภานนท์. (2558). คุณภาพชีวิตและการปรับตัวของผู้สูงอายุในตำบลคลองรีอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยทักษิณ.
วนิดา อินทสาร. (2564). ปัจจัยเชิงประจักษ์ที่ส่งผลต่อการบริหารเงินออมเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนวัยสูงอายุของประชาชนในจังหวัดชุมพร. วารสารJournal of KMITL Business school, 11(2), 46-56.
วิโรจน์ เจษฎาลักษณ์และธนภรณ์ เนื่องพลี. (2561). พฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลต่อการออมของผู้สูงอายุในอำเภอเมืองจังหวัดนนทบุรี. วารสาร Veridian E-Journal มหาวิทยาลัยศิลปากร, 11(1), 3061-3074.
สาธารณสุขอำเภอบ้านตาก. (2565). จากหมอรู้จักคุณ. เข้าถึงได้จาก https://3doctor.hss.moph. go.th /main/rp_tambon?region/บ้านตาก
สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ. พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ 2546ปรับปรุง 2553. (2553). กรุงเทพฯ: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
สุภมาส อังศุโชติ. (2558). อิทธิพลของลักษณะชุมชนต่อโมเดลการส่งเสริมการออมของผู้ สูงอายุในจังหวัดนนทบุรีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง: โมเดลสมการโครงสร้างกลุ่มพหุ. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร, 10(2), 1-16.
อุไรวรรณ รุ่งไหรัญ. (2559). ทัศนคติของผู้สูงอายุที่มีต่อสิทธิผู้สูงอายุตามพระราชบัญญัติ ผู้ สูงอายุพ.ศ. 2546 ในการร่วมกิจกรรม ณ สวนสาธารณะของ กรุงเทพมหานคร. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 8(1), 122-136.