ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้ง ผู้บริหารท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมือง 2) ศึกษาหลักอิทธิบาท 4 ต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมือง และ 3) ศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้วิธีวิจัยเชิงสำรวจกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และตำบลน้ำชำ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ จำนวน 368 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรคำนวณของทาโร่ ยามาเน่ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าถดถอยพหุคูณ การวิจัยเชิงคุณภาพ เลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญแบบเจาะจง ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 10 รูป/หรือคน และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนาประกอบบริบท ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ( =3.34, S.D.=0.32) 2) องค์ประกอบของหลักอิทธิบาท 4 สามารถร่วมอภิปรายความผันแปรต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้ร้อยละ 46.00 โดยมีองค์ประกอบด้านจิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น (X13) ส่งผลมากที่สุด มีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยมาตรฐาน (β) = 0.279 และ 3) ปัญหา อุปสรรค พบว่า ประชาชนมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่การเป็นพลเมืองต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองค่อยข้างน้อย ส่วนใหญ่ยังมีความนิยมในตัวบุคคล ความเป็นอิสระเสรีภาพในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางการเมือง และมีความจำเป็นในการดำรงชีพ ทำให้เกิดการใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย ข้อเสนอแนะ ควรมีการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นการสร้างกระบวนการรับรู้ การตระหนักรู้ให้กับประชาชน ควรส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ด้านข้อมูลข่าวสารการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งให้เข้าถึงสื่อส่วนบุคคล เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างเหมาะสม ร่วมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการร่วมกลุ่มเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับท้องถิ่น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและวิชาการบวรพัฒน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
ไกรลาส พลไชญ. (2562). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร. วารสารธาตุพนมปริทรรศน์, 3(1), 1-15.
ชนิกานต์ ใสยเกื้อ. (2565). พฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ ประชาชนในอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 9(5), 129-145.
ชลนดา เมฆอากาศ. (2564). การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ในเขตเทศบาลตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่. (สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พงษ์พัฒ วัฒนพงศ์ศิริ และสุรีย์พร สลับสี. (2563). การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนต่อการปกครองท้องถิ่นในเทศบาลบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 1(2), 204-209.
ภาสวรรณ สิทธิกรณ์. (2564). พฤติกรรมการใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2562 ในจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7. (วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Roth, D.F. & Wilson, F. L. (1980). The Comparative Study of Politics. (2nd ed.). Engle Wood Cliffs, New York : Pretice-Hall.
Yamane, T. (1973). Statistic : An Introductory Analysis. (3rd ed). New York : Harper & Row.