วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jait_ssru <p><strong>วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี</strong></p> <p><strong>ISSN : 2730-2199 <br />E-ISSN : 2821-9414</strong></p> <p><strong>กำหนดการออกวารสาร<br /></strong> กำหนดออกเผยแพร่ราย 6 เดือน ปีละ 2 ฉบับ ดังนี้<br /> ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มิถุนายน<br /> ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม – ธันวาคม</p> <p><strong>ขอบเขตบทความ</strong><br /> ด้านสารสนเทศศาสตร์ สารสนเทศศึกษา บรรณารักษศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการเทคโนโลยี และสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง</p> Academic Resource and Information Technology Center, Suan Sunandha Rajabhat University th-TH วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี 2730-2199 ระบบจัดการฐานข้อมูลงานวิจัยนักศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jait_ssru/article/view/2883 <p>การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลงานวิจัยนักศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (2) เพื่อประเมินคุณภาพระบบจัดการฐานข้อมูลงานวิจัย และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ใช้งานระบบฐานข้อมูลงานวิจัย โดยระบบถูกพัฒนาขึ้นในรูปแบบของเว็บแอปพลิเคชัน และเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูล MySQL และใช้ Bootstrap Framework ในการออกแบบการแสดงผล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน เพื่อประเมินคุณภาพเว็บไซต์ และกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานจำนวน 315 คน เพื่อประเมินความพึงพอใจต่อการใช้งานระบบ โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติ ซึ่งได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผลการประเมินประสิทธิภาพจากผู้เชี่ยวชาญในภาพรวมอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.62 และกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานมีความพึงพอใจอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.73</p> ณิชนันทน์ กะวิวังสกุล ไหมคำ ตันติปทุม อัครเดช จิรพรศิรพัชร Copyright (c) 2023 วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี 2023-12-25 2023-12-25 4 2 1 14 การใช้ระบบสื่อสารสารสนเทศพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jait_ssru/article/view/2945 <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับการใช้ระบบสื่อสารสารสนเทศพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยติดเตียง (2) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้ระบบสื่อสารสารสนเทศพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยติดเตียง และ (3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการใช้ระบบสื่อสารสารสนเทศพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จำนวน 400 คน และกลุ่มเป้าหมายผู้ให้สัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 10 คน สถิติที่ใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าถดถอยพหุคูณ และการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า: (1) ระดับการใช้ระบบสื่อสารสารสนเทศพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยติดเตียง โดยรวมทุกด้าน พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง (2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้ระบบสื่อสารสารสนเทศพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยติดเตียง โดยรวมทุกด้าน อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ด้านสภาพทางเศรษฐกิจX<sub>1</sub> ด้านวัฒนธรรมและทัศนคติX<sub>3</sub> และด้านการบริหารจัดการX<sub>5</sub> ตามลำดับ และแนวทางการพัฒนาการใช้ระบบสื่อสารสารสนเทศ คือ (3) ควรให้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถในการให้บริการเกี่ยวการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร เพื่อความรวดเร็วต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยติดเตียงอย่างมีประสิทธิผลในการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการได้อย่างชัดเจน โดยมีการให้บริการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของผู้ป่วยติดเตียงเข้ากับระบบสารสนเทศของหน่วยงาน เพื่อสะดวกในการให้บริการอย่างสุภาพเอาใจใส่ในการบริการและการอธิบาย ชี้แจง แนะนำขั้นตอนการให้บริการ ตลอดการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความพึงพอใจต่อสิ่งอำนวยความสะดวกเวลามาใช้บริการอย่างเหมาะสม</p> บุญเพ็ง สิทธิวงษา Copyright (c) 2023 วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี 2023-12-25 2023-12-25 4 2 15 24 JewelAR: การพัฒนาเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมสำหรับส่งเสริมการตลาดออนไลน์ประเภทสินค้าเครื่องประดับ https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jait_ssru/article/view/2923 <p>งานวิจัยนี้นำเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality) มาใช้ในการพัฒนาระบบ "JewelAR" สำหรับการตลาดสินค้าเครื่องประดับออนไลน์ โดยผู้ซื้อสามารถทดลองสวมใส่สินค้าเครื่องประดับผ่านเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมแบบเสมือนจริง ผลวิจัยพบว่า ระบบ "JewelAR" ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำสำหรับผู้ซื้อ แต่ยังส่งเสริมการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประสิทธิภาพของระบบยืนยันได้จากผลการประเมินประสิทธิภาพของระบบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ประสิทธิภาพของระบบ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 และความน่าเชื่อถืออยู่ที่ 0.51 และผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.20 และความน่าเชื่อถืออยู่ที่ 0.47 ซึ่งอยู่ในระดับมาก ช่วยในด้านการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมมีความเสมือนจริงและสวยงาม ระบบ "JewelAR" จึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการตลาดออนไลน์ของสินค้าเครื่องประดับ และเปิดโอกาสใหม่ในการเข้าถึงลูกค้ารุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี</p> พิจิตรา จอมศรี ดุลยวิทย์ ปรางชุมพล กิติยา พูนศิลป์ Copyright (c) 2023 วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี 2023-12-25 2023-12-25 4 2 25 35 การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการวัดสมรรถภาพการกระโดดแนวดิ่ง https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jait_ssru/article/view/2947 <p>งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันทดสอบสมรรถภาพการกระโดดในแนวดิ่งผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ การพัฒนาศึกษาแอปพลิเคชันในครั้งนี้ ตามหลักการวงจรชีวิตการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งแต่การศึกษาปัญหา จนถึงการบำรุงรักษา ผลการศึกษา พบว่า ปัญหาของอุปกรณ์มาตรฐานในการวัดประเมินสมรรถภาพทางกาย เช่น วิ่ง เร่งความเร็ว และเปลี่ยนทิศทาง มีขนาดใหญ่และราคาแพง ปัจจุบันมีเซนเซอร์วัดความเฉื่อย (IMU) ที่ติดตั้งในโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการส่งข้อมูลความเร็วและความเร่ง ผู้ใช้ต้องการอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก ราคาไม่แพง การวิเคราะห์และออกแบบระบบด้วย UML ในการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันวัดแรงเฉื่อยในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยการสร้างส่วนต่อประสานโปรแกรม (API) ใช้โปรแกรมแอนดรอยด์และจาวา ในการจัดการข้อมูลจากเซนเซอร์วัดแรงเฉื่อย และนำข้อมูลมาคำนวณหาความสูงของการกระโดดในแนวดิ่ง พบว่า โมบายแอปพลิเคชันทดสอบสมรรถภาพการกระโดดในแนวดิ่งโดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถคำนวณผลลัพธ์ออกมาเป็นความสูงของการกระโดดได้ และรายงานระดับสมรรถภาพทางกายผ่านการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ ประกอบด้วย โค้ช นักกีฬา และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ผลการประเมินความพึงพอใจโดยรวมด้วยคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.67 ซึ่งอยู่ในระดับดีมาก ผู้ใช้มีความพึงพอใจมากกับอุปกรณ์ที่ใช้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สะดวกในการใช้งาน ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.76 และในขั้นตอนต่อไป จะนำผลการประเมินสมรรถภาพทางการกระโดดในแนวดิ่งจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เปรียบเทียบกับอุปกรณ์มาตรฐาน</p> หฤษฎ์ อภิเดช สุวรรณี อัศวกุลชัย Copyright (c) 2023 วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี 2023-12-25 2023-12-25 4 2 37 46 การพัฒนาระบบคัดแยกมะขามหวานด้วยเทคนิคการประมวลผลภาพ https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jait_ssru/article/view/3036 <p>มะขามหวานเป็นสินค้า GI ของจังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถสร้างมูลค่าได้หลายพันล้านบาทต่อปี การจะขายมะขามหวานให้ได้ราคาดี มีความจำเป็นต้องคัดแยกคุณภาพ การแยกคุณภาพและขนาดของมะขามหวาน ณ ปัจจุบันจะใช้คนที่มีความชำนาญในการคัดแยก ซึ่งหากมีปริมาณมากก็ต้องใช้เวลาและแรงงานมาก ผู้วิจัยมีแนวคิดที่จะพัฒนาระบบคัดแยกมะขามหวานด้วยเทคนิคการประมวลผลภาพ โดยแบ่งตามมาตรฐานมะขามหวาน เป็น มะขามหวานมีตำหนิ มะขามปกติขนาด 1 มะขามปกติขนาด 2 และ มะขามปกติขนาด 3 จากภาพมะขามหวานสีทองและสีชมพู จำนวน 3,000 ภาพ มาทดสอบในอัตราส่วน 80 : 20 โดยแบ่งเป็น 5-Fold Cross Validation แล้วหาค่าเฉลี่ย โดยใช้อัลกอริทึม YOLOv8 โดยทำการทดสอบ ใน 3 รุ่น คือ n, s and m โดยเลือก รุ่น n ที่มีความเร็วสูงสุด 7.28 เฟรมต่อวินาที ค่า mAP ที่ 0.84 ค่า Precision ที่ 1.0 Recall ที่ 8.9 F1-Score ที่ 0.85 และพื้นที่ในการจัดเก็บบนดิสก์เล็กที่สุด ขนาด 7.52 เมกะไบต์ โดยการนำเข้ารูปภาพแล้วทำนายผลคุณภาพของมะขามหวานบนเว็บแอปพลิเคชัน ช่วยเกษตรกรให้คัดแยกมะขามหวานได้ถูกต้อง รวดเร็ว และมีเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเองเกิดความมั่นใจในตัวสินค้ามากขึ้น</p> ปาณิสรา หาดขุนทด ภัครพล อาจอาษา ธนากร แสงกุดเลาะ Copyright (c) 2023 วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี 2023-12-25 2023-12-25 4 2 47 61 การพัฒนาแอปพลิเคชันแชทบอทตอบคำถามการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้อัตโนมัติสำหรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา https://so09.tci-thaijo.org/index.php/jait_ssru/article/view/3096 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความเข้าใจ สภาพปัญหา และความต้องการของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาเกี่ยวกับการทำวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ (2) พัฒนาแอปพลิเคชันแชทบอทตอบคำถามการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้อัตโนมัติสำหรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มีต่อแอปพลิเคชันแชทบอทตอบคำถามการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้อัตโนมัติ โดยศึกษาความเข้าใจ สภาพปัญหา และความต้องการของนักศึกษาผ่านการสัมภาษณ์อาจารย์ผู้สอน จำนวน 5 คน และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา จำนวน 15 คน จากนั้นออกแบบแอปพลิเคชันแชทบอทเพื่อแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการนั้น ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษามีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับความหมายของการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ แต่ขาดความชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการ ขั้นตอนหรือวิธีการทำวิจัย นักศึกษาส่วนใหญ่มีปัญหาการเริ่มต้นงานวิจัย การสืบค้นข้อมูล ขาดความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบวิธีวิจัย สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล จากผลการวิเคราะห์ข้อมูล สามารถออกแบบโครงสร้างของแอปพลิเคชันแชทบอท ซึ่งประกอบด้วยเมนูหลัก คือ (1) พื้นฐานการวิจัย (2) สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล (3) การเริ่มต้นงานวิจัยและการวางแผน (4) การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือ (5) การเขียนรูปแบบและตัวอย่าง และ 6) การสืบค้นและการเผยแพร่งานวิจัย และจากการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษา จำนวน 45 คน ที่มีต่อแอปพลิเคชันแชทบอทภายหลังการใช้งาน พบว่านักศึกษามีความพึงพอใจต่อแอปพลิเคชันแชทบอทโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.55 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.33 ซึ่งสูงกว่าระดับมากที่กำหนดไว้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ</p> อัมพร วัจนะ Copyright (c) 2023 วารสารวิทยสารสนเทศและเทคโนโลยี 2023-12-25 2023-12-25 4 2 63 75