วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการศึกษา
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE
<p><strong>"วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการศึกษา" </strong>เป็นวารสารสำหรับการเผยแพร่ผลงานวิชาการและผลงานวิจัยทางสังคมศาสตร์ของคณาจารย์ นักวิชาการ นิสิต นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป โดยแขนงวิชาที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผลงานในเชิงบูรณาการด้านสหวิทยาการ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมวิทยา การพัฒนาชุมชน การพัฒนาสังคม นิติศาสตร์ การจัดการ บริหารธุรกิจ การศึกษา การบริหารการศึกษา และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทางสังคมศาสตร์<br /><strong>กำหนดการตีพิมพ์เผยแพร่ </strong>ปีละ 6 ฉบับคือ</p> <ul> <li>ฉบับที่ 1 มกราคม - กุมภาพันธ์</li> <li>ฉบับที่ 2 มีนาคม - เมษายน</li> <li>ฉบับที่ 3 พฤษภาคม - มิถุนายน</li> <li>ฉบับที่ 4 กรกฎาคม - สิงหาคม</li> <li>ฉบับที่ 5 กันยายน - ตุลาคม</li> <li>ฉบับที่ 6 พฤศจิกายน – ธันวาคม</li> </ul> <p> </p>
th-TH
<p>บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร</p>
siwapatb@gmail.com (ดร.ศิวาพัชญ์ บำรุงเศรษฐพงษ์)
siwapatb@gmail.com (ดร.ศิวาพัชญ์ บำรุงเศรษฐพงษ์)
Sun, 01 Jun 2025 09:18:31 +0700
OJS 3.3.0.8
http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss
60
-
มุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อการโฆษณาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว : กรณีศึกษานักศึกษาวิทยาลัยเอกชนในกรุงเทพมหานคร
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/5944
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมของนักศึกษาที่ตอบสนองต่อโฆษณาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (2) ศึกษาปัจจัยด้านมุมมองของนักศึกษาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครที่มีต่อการโฆษณาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ (3) ศึกษาปัจจัยด้านมุมมองที่ส่งผลต่อการรับรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมของนักศึกษาดังกล่าวที่มีต่อการโฆษณาด้านการท่องเที่ยว กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือ นักศึกษาที่พักอาศัยหรือศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 20 คน โดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพ (Content Analysis)</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า (1) นักศึกษามีแนวโน้มให้ความสนใจกับโฆษณาที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์และทันสมัย โดยเฉพาะโฆษณาที่มี Influencers เป็นตัวแทน (2) โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube เป็นช่องทางที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการรับข้อมูลการท่องเที่ยว (3) นักศึกษามักจะตัดสินใจเลือกสถานที่ท่องเที่ยวจากโฆษณาที่มีข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ เช่น รีวิวจากผู้ใช้จริงหรือข้อมูลที่โปร่งใส โฆษณาที่ไม่เกินจริงจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการตัดสินใจ</p> <p>ข้อเสนอแนะจากการวิจัยคือ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวควรปรับกลยุทธ์โฆษณาให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้สื่อของนักศึกษา โดยเน้นการใช้โซเชียลมีเดียในการนำเสนอเนื้อหาที่สร้างสรรค์และน่าเชื่อถือ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจเลือกใช้บริการท่องเที่ยวในกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ</p>
กนกวรรณ อุมาธร, เพชรลดา ธารนพ, ศุภกิตติ์ เศษรักษา
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการศึกษา
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/5944
Sun, 01 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของ ผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดนราธิวาส
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/5978
<p><strong> </strong>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการดำเนินงานของผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดนราธิวาส 2) วิเคราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานในด้านความเร็วในการให้บริการ การลดต้นทุน และคุณภาพการบริการ และ 3) ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างระดับการใช้เทคโนโลยีกับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวน 370 รายที่สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้ระบบ POS (92%) และระบบสั่งอาหารออนไลน์ (68%) ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการให้บริการโดยเฉลี่ย 25% และลดข้อผิดพลาดในการสั่งซื้อได้ถึง 90% นอกจากนี้ ระบบจัดการสต็อกสามารถลดต้นทุนได้เฉลี่ย 15% ต่อเดือน การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยการถดถอยพหุคูณพบว่า ระดับการใช้เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (R² = 0.72) งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหาร</p> <p>องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในธุรกิจร้านอาหารสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน ผู้ประกอบการร้านอาหารควรให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาทักษะบุคลากรเพื่อให้สามารถใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด</p>
อนันย์ แวสตาปอ, เบญจพร ธัญวงษ, อัฟซา อาแว
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการศึกษา
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/5978
Sun, 01 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
การพัฒนาทักษะการคูณด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ SCPS ร่วมกับการ์ดเกม (Card Game) ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านจันทัย
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/6010
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการคูณด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ SCPS ร่วมกับการ์ดเกม (Card Game) ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านจันทัย โดยมีคะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านจันทัย อำเภอศรีเมืองใหม่จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 จำนวน 14 คน ที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช่ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้แบบ SCPS ร่วมกับการ์ดเกม (Card Game) และแบบวัดทักษะการคูณ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าทีแบบกลุ่มสัมพันธ์ (Paired Sample t-test) ผลการวิจัยพบว่า ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านจันทัย มีคะแนนทักษะการคูณก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 13.29 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 66.43 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.96 และคะแนนทักษะการคูณหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 16.57 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.86 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.08 แสดงว่า ผู้เรียนมีคะแนนทักษะการคูณหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทักษะการคูณก่อนเรียน และผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ SCPS ร่วมกับการ์ดเกม (Card Game) มีทักษะการคูณสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p>
จิรัฐิติพร จำนงค์, พีรกฤต เครือลุนทีระยุทธ, อัมรินทร์ จาระงับ
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการศึกษา
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/6010
Sun, 01 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
การใช้ศิลปะบำบัดเพื่อการพัฒนาศักยภาพและการฟื้นฟูของคนพิการ
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/5990
<p>จากการประเมินผลบทความวิชาการ พบว่าศิลปะบำบัด (ดนตรีบำบัด, การละครบำบัด, วาดรูปบำบัด) ที่เน้นความสร้างสรรค์และผ่อนคลาย มีศักยภาพสูงในการฟื้นฟูผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ทั้งในเด็กและผู้สูงอายุ ศิลปะบำบัดช่วยให้การดูแลรักษา ผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ที่อาจมีปัญหาด้านอารมณ์และพฤติกรรมง่ายขึ้น ผู้รับบริการผ่อนคลายและให้ความร่วมมือมากขึ้น ส่งผลให้การฟื้นฟูมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้, ครอบครัว และผู้ดูแล ซึ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูแบบองค์รวม อย่างไรก็ตาม องค์ความรู้ศิลปะบำบัดสำหรับ ผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ในไทยยังจำกัด เมื่อเทียบกับจำนวน เด็กและผู้สูงอายุพิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ และครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ</p> <p>ดังนั้น จึงได้ข้อสรุปประเด็นที่จะศึกษา : 1.เร่งศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนารูปแบบศิลปะบำบัดที่เหมาะสมกับ ผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ในบริบทไทย 2.จัดทำคู่มือมาตรฐาน โดยหน่วยงานภาครัฐ (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) เพื่อเป็นแนวทางในการใช้ศิลปะบำบัดกับ เด็กและผู้สูงอายุพิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ แต่ละประเภท 3.สร้างเครือข่าย ผู้ใช้ศิลปะบำบัด เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาองค์ความรู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการฟื้นฟู ผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ โดยเน้นการใช้ศิลปะบำบัดเป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิต</p>
ธนวิชญ์ กิชเดช, นฤพันธ์ สมเจริญ, ปิ่นปินัทธ์ เหลืองพิทักษ์, สมชาย มะรินทร์, เอื้องฟ้า ตุระวิพาค
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการศึกษา
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/5990
Sun, 01 Jun 2025 00:00:00 +0700
-
การบริหารโครงการก่อสร้างด้วยแนวคิด Lean Construction: กรณีศึกษาความสำเร็จและบทเรียนในประเทศไทย
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/6039
<p>บทความวิชาการนี้มุ่งศึกษาการประยุกต์ใช้แนวคิด Lean Construction ในโครงการก่อสร้างของประเทศไทย โดยการทบทวนวรรณกรรมจากงานวิจัยและบทความวิชาการที่เผยแพร่ในประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จ อุปสรรค และบทเรียนที่ได้จากการนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ ผลการศึกษาพบว่าการประยุกต์ใช้ Lean Construction ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยสามารถลดความสูญเปล่าในกระบวนการก่อสร้าง เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และลดระยะเวลาการก่อสร้างได้อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญประกอบด้วย การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง การฝึกอบรมบุคลากร และการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัล ส่วนอุปสรรคที่พบมากได้แก่ การขาดความรู้ความเข้าใจในหลักการ Lean และวัฒนธรรมการทำงานแบบดั้งเดิม บทความนี้นำเสนอกรอบแนวคิดสำหรับการประยุกต์ใช้ Lean Construction ในบริบทของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อนักวิชาการและผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย</p>
ปรินทร ศิริเอี้ยวพิกูล
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการศึกษา
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JISSE/article/view/6039
Sun, 01 Jun 2025 00:00:00 +0700