https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/issue/feed วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย 2024-08-29T00:00:00+07:00 ดร.อำนวย บุญรัตนไมตรี amnuay.boo@rmutr.ac.th Open Journal Systems <p><strong>วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย</strong></p> <p><strong>Journal of Contemporary and Interdisciplinary Management</strong></p> <p><strong>กำหนดออก</strong> : 3 ฉบับต่อปี</p> <p>ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน</p> <p>ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม </p> <p>ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม</p> <p><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์</strong></p> <p> วารสารมีนโยบายฯ รับตีพิมพ์บทความวิจัย บทความวิชาการ สหวิทยาการ ด้านการบริหารการศึกษา การจัดการ การบริหารธุรกิจ สหวิทยาการร่วมสมัย รัฐประศาสนศาสตร์ สังคมศาสตร์ การเมืองการปกครอง และอื่นๆ อีกหลากหลายสาขาวิชา โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือคณาจารย์ นักศึกษา และนักวิจัยทั้งในและนอกสถาบัน</p> https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/article/view/4024 เป้าหมายการพัฒนาจังหวัดสงขลา 20 ปี (พ.ศ. 2566 – 2585) 2024-04-20T20:50:23+07:00 สุระพรรณ์ จุลสุวรรณ์ surapan.ju@skru.ac.th <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความต้องการประชาชนและศักยภาพของจังหวัดสงขลา และ (2) จัดทำเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดสงขลา 20 ปี (พ.ศ.2566-2585) ซึ่งเป็นดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565 โดยการสำรวจความคิดเห็นโดยใช้แบบสอบถามจากประชาชนในจังหวัดสงขลา จำนวน 310 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่และร้อยละ และรับฟังความคิดเห็นจากการจัดเวทีประชาคมและการประชุมกลุ่มย่อยจำนวน 4 ครั้งกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดทำผลการศึกษาตามกรอบของคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ ด้านวิชาการ กฎหมาย และการบูรณาการแผนงานโครงการกำหนดไว้</p> <p>ผลการศึกษา พบว่า (1) ประชาชนมีความคิดเห็นว่าจังหวัดสงขลามีศักยภาพ 5 อันดับแรก ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม ด้วนการท่องเที่ยว ด้านเกษตรกรรม ตามลำดับ และ (2) เป้าหมายการพัฒนาจังหวัดสงขลา 20 ปี (พ.ศ.2566-2585) กำหนดเป็น “สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน มหานครน่าอยู่ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยมีแผนงานที่สำคัญประกอบด้วย (1) แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (2) แผนการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น เกษตรปลอดภัย เกษตรชีวภาพ เกษตรแปรรูป (3) แผนการพัฒนาผู้ประกอบการ SME และ startup เพื่อเพิ่มขีดความ สามารถในการแข่งขัน (4) แผนงานยกระดับการท่องเที่ยวมูลค่าสูง (5) แผนงานยกระดับสงขลาให้เป็นเมืองศูนย์กลางทางการบริการสุขภาพของภูมิภาคอาเซียน (6) แผนยกระดับด้านการศึกษา (7) แผนพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน และ (8) แผนพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ</p> 2024-08-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/article/view/4754 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษี อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2024-07-15T16:13:47+07:00 วุฒิชัย ฟองชัย academicservice.rcim@gmail.com <p>การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสำรวจการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษีสรรพสามิต อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (2) เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการมี ส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษีสรรพสามิต กับปัจจัยที่มีผลต่อการมี ส่วนร่วมของประชาชน และ (3) เพื่อนำเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษีสรรพสามิต การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 300 คน เก็บรวบข้อมูลด้วยแบบสอบถาม สถิติวิเคราะห์ประกอบด้วย ค่า ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สหสัมพันธ์เพียร์สัน และ สมการถดถอยเชิงพหุ ผลการศึกษาพบว่า (1) ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษีสรรพสามิต พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด (2) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษีสรรพสามิตกับปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน พบว่า มีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับปานกลางค่อนข้างสูง และ (3) ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษีสรรพสามิตสามารถพยากรณ์การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษีสรรพสามิตได้ร้อยละ 57.1 ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมตัดสินใจ การมีส่วนร่วมรับผลประโยชน์ การมีส่วนร่วมการดำเนินงาน และ การมีส่วนร่วมการประเมินผล</p> 2024-08-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/article/view/4762 ประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ 2024-07-15T16:14:32+07:00 ขนิษฐา สินสอน academicservice.rcim@gmail.com <h1 style="text-align: justify; text-justify: inter-cluster;"><span lang="TH" style="font-size: 16.0pt; font-family: 'TH SarabunPSK',sans-serif; font-weight: normal;">การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์3ประการ(1)เพื่อประเมินระดับประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายจังหวัดสมุทรปราการ(2)เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายจังหวัดสมุทรปราการจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล(3)เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการและประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 398 คน ได้แก่ ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที ค่าความแปรปรวนทางเดียวและค่าสหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัย (1) ด้านระดับประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายจังหวัดสมุทรปราการ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด(2)ด้านการเปรียบเทียบประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมือง</span><span lang="TH" style="font-size: 16.0pt; font-family: 'TH SarabunPSK',sans-serif; font-weight: normal;">ปู่เจ้าสมิงพราย</span><span lang="TH" style="font-size: 16.0pt; font-family: 'TH SarabunPSK',sans-serif; font-weight: normal;">จังหวัดสมุทรปราการจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลพบว่ารายได้ที่แตกต่างกันมีความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายจังหวัดสมุทรปราการที่แตกต่างกันและ(3)ด้านการจัดการมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับประสิทธิผลการให้บริการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายจังหวัดสมุทรปราการพบว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกระดับปานกลาง</span></h1> 2024-08-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/article/view/4774 ปัจจัยที่มีผลต่อความก้าวหน้าของบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตการศึกษาพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 2024-07-15T16:15:50+07:00 ชนินทร์ ทับเปลี่ยน academicservice.rcim@gmail.com <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพรรณนาอุปสรรคและแนวทางแห่งความก้าวหน้าของบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 (2) เพื่อระบุปัจจัยที่เหมาะสมสำหรับความก้าวหน้าของบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์เขต 1 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 จำนวน 6 คน และผู้บริหารการศึกษา จำนวน 1 คน รวมทั้งสิ้น 7 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสอบถามเชิงลึกด้วยคำถามแบบมีโครงสร้าง ผลการศึกษา พบว่า (1) ความก้าวหน้าของบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 สามารถก้าวหน้าในชีวิตการทำงานได้ในระดับหนึ่งเนื่องจากโครงสร้างของหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ นั้น มีการกำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งไว้จำกัด โดยเฉพาะการเข้าสู่ตำแหน่ง ผูกพันด้วยวุฒิด้านการศึกษา ทำให้ไม่สามารถครองตำแหน่ง ระดับสูงได้ด้านการพิจารณาความดีความชอบ ระบบการประเมินยังคงมีระบบอุปถัมภ์ (2) ปัจจัยที่มีผลสำหรับความก้าวหน้าของบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1พบว่า ปัจจัยด้านความพึงพอใจของผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และผู้รับบริการ และด้านการเข้าศึกษาในสาขาวิชาที่หน่วยราชการอื่น ๆ มีความต้องการในทุกระดับการศึกษาเป็นปัจจัยที่มีผลมากที่สุด</p> 2024-08-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JCIM/article/view/4775 แผนธุรกิจร้านซักอบรีดในเขตพื้นที่ตำบลนาวุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี 2024-07-18T16:27:24+07:00 ณัฐวรรธน์ ขำขาว academicservice.rcim@gmail.com <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้บริการซักอบรีดในเขตพื้นที่ตำบลนาวุ้งอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี (2) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการซักอบรีดของผู้ใช้บริการในเขตพื้นที่ตำบลนาวุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี และ (3) จัดทำแผนธุรกิจร้านซักอบรีดในเขตพื้นที่ตำบลนาวุ้งอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณ โดยวิธีการแบ่งตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Sampling) แบบมีสัดส่วน (Proportionate Sampling) จำนวน 337 คน โดยคำนวณจากสูตร Taro Yamane ซึ่งใช้ Google Form ในการเก็บข้อมูล โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นร้อยละ 95 และระดับค่าความคลาดเคลื่อน ร้อยละ 5 ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยประกอบด้วย (1) ข้อมูลด้านพฤติกรรมใช้บริการซักอบรีด 24 ชั่วโมง เพราะความสะดวก รวดเร็ว รูปแบบเครื่องซักผ้าแบบใดก็ได้ ใช้บริการ 2 ครั้ง/สัปดาห์ ช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. ในวันเสาร์ ในอัตราค่าบริการ 30 บาท รู้จักร้านด้วยตนเอง เห็นด้วยในการมี Application ให้บริการ ส่วนใหญ่รีดผ้าด้วยตนเองและไม่เคยใช้บริการรีดเสื้อผ้า (2) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการใช้บริการ(4 Ps) ด้านบริการโดยผู้ใช้บริการเน้นด้านคุณภาพของการซักอบรีดเป็นหลัก ด้านอัตราค่าบริการผู้ใช้บริการให้ความสำคัญกับการมีป้ายราคาแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจน ด้านช่องทางผู้ใช้บริการให้ความสำคัญในด้านสถานที่ให้บริการใกล้ที่พักอาศัย หรือ ใกล้สถานที่ทำงาน และด้านการส่งเสริมการตลาดผู้ใช้บริการต้องการให้มีสื่อSocial Media เช่น Facebook, Line (3) ธุรกิจจะใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 2 ล้านบาท มีระยะคืนทุน ในเวลา 1 ปี</p> 2024-08-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารสหวิทยาการและการจัดการร่วมสมัย