วารสารมหาวิทยาลัยพัฒนาเชิงพื้นที่ https://so09.tci-thaijo.org/index.php/ABJVRU <p> </p> <p> </p> <p><strong> ***วารสารงดรับพิจารณาบทความชั่วคราว***</strong></p> <p> </p> <p> </p> <p> </p> <p> </p> <p> </p> <p>วารสารมหาวิทยาลัยพัฒนาเชิงพื้นที่ (Area Based Development University Journal) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความทางวิชาการ ด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่ (Area-Based Development Studies) ในกลุ่มจังหวัด ระดับจังหวัด ตำบล หมู่บ้านหรือชุมชน ซึ่งสอดคล้องงานด้านการพัฒนาครอบคลุมสาขาต่าง ๆ ดังนี้ สังคมศาสตร์, มนุษยศาสตร์, รัฐศาสตร์, การบริหารจัดการ, เกษตรศาสตร์, สาธารณสุขชุมชน, การจัดการสิ่งแวดล้อม, วิทยาศาสตร์, นิติศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, สหวิทยาการ, และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการแก่นักวิจัย นักวิชาการ คณาจารย์ นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป</p> <p>วารสารมหาวิทยาลัยพัฒนาเชิงพื้นที่ ดำเนินการโดยสำนักส่งเสริมการเรียนรู้และบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์</p> <p>การพิจารณาใช้ผู้ทรงคุณวุฒิ อย่างน้อย 3 ท่าน</p> <p>โดยผู้ทรงคุณวุฒิที่พิจารณาจะไม่อยู่ในสังกัดเดียวกันกับผู้นิพนธ์ ทั้งนี้ การพิจารณาบทความทางวารสารจะปกปิดชื่อผู้นิพนธ์และชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ (Double-Blind Peer Review)</p> <p>เปิดรับบทความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ <strong>ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม</strong> โดยรับพิจารณาทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย และเผยแพร่ทุก ๆ 4 เดือน</p> <p>โดยตีพิมพ์ปีละ 3 ฉบับ ได้แก่<br />* ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม-เมษายน<br />* ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม<br />* ฉบับที่ 3 เดือนกันยายน-ธันวาคม</p> <p><strong><a href="https://youtu.be/elHAEUFd6MY">คลิปสอนการสมัครบทความ</a></strong></p> <p><strong><a href="https://drive.google.com/drive/folders/1t-I81fvV6Qs6HEXYDb5k5u3SNaNQqU0c?usp=sharing">ตัวอย่างการเขียนต้นฉบับ</a></strong></p> สำนักส่งเสริมการเรียนรู้และบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ th-TH วารสารมหาวิทยาลัยพัฒนาเชิงพื้นที่ การพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของนักเรียนระดับชั้น (ปวช.) รายวิชาการเพาะเลี้ยงปลา วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project - Based Learning: PBL) https://so09.tci-thaijo.org/index.php/ABJVRU/article/view/2128 <p>การวิจัยในชั้นเรียนนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของนักเรียนระดับชั้น ปวช. ห้อง 3/2 รายวิชาการเพาะเลี้ยงปลา วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน Project - Based Learning: (PBL) และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) ประชากร คือ นักเรียนชั้น ปวช.3 จำนวน 3 ห้อง รวม 49 คน ของ วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้น ปวช. ห้อง 3/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1/2565 จำนวน 18 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การเพาะพันธุ์ปลา โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning: PBL) จำนวน 1 แผน 2) แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การเพาะพันธุ์ปลา โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) 3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)</p> <p> ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนมีทักษะการปฏิบัติงานด้านการเพาะเลี้ยงปลา อยู่ในเกณฑ์ดีมาก มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 0.91 และนักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning: PBL) อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.97</p> อนุสรณ์ ช่วยทอง สมภพ อินทสุวรรณ ประมุข เอี้ยวสุข ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยพัฒนาเชิงพื้นที่ 2023-03-17 2023-03-17 2 1 1 17 บทบาทของผู้นำแบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการที่ส่งผลต่อการคงอยู่ ของประเพณีบุญหลวง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย https://so09.tci-thaijo.org/index.php/ABJVRU/article/view/2897 <p> บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบทบาทของผู้นำแบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการที่ส่งผลต่อการคงอยู่ของประเพณีบุญหลวง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และ 2) เปรียบเทียบบทบาทของผู้นำแบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งการวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย ได้แก่ ผู้นำแบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการ จำนวน 52 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างและใช้การสังเกตแบบมีส่วนร่วม นำข้อมูลมาวิเคราะห์ภายใต้กรอบแนวคิดของบทบาทผู้นำ และนำเสนอข้อมูลด้วยหลักพรรณนาวิธี </p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) บทบาทของผู้นำแบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการที่ส่งผลต่อการคงอยู่ของประเพณีบุญหลวงอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ประเพณีจะคงอยู่ได้นั้นผู้นำจะต้องมีความเข้มแข็ง มีขั้นตอนในการทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้ความสำคัญกับงานประเพณี มีการสนับสนุนงบประมาณและบุคลากร และสิ่งสำคัญยิ่งต้องมีการทำงานสอประสานกันระหว่างผู้นำแบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการ 2) เปรียบเทียบบทบาทของผู้นำแบบเป็นทางการและแบบไม่เป็นทางการ ทำให้ทราบถึงหน้าที่ที่แตกต่างกันตามแต่จะได้รับมอบหมายจากภาครัฐและภาคเอกชน ผู้นำแบบเป็นทางการมีบทบาทในการวางแผน การประชาสัมพันธ์ การติดต่อประสานงาน การจัดเตรียมงานแบบพิธีการ และการเปิดงานแบบทางการ ส่วนผู้นำแบบไม่เป็นทางการมีบทบาทในการบวชพราหมณ์ การทำบุญตักบาตร การบายศรีสู่ขวัญเจ้าพ่อกวน การบายศรีสู่ขวัญพระเวสสันดร การเจริญพระพุทธมนต์เทศนาพระมาลัยหมื่น พระมาลัยแสน และการเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์</p> นริศรา บังใบ วีรนุช พรมจักร์ ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยพัฒนาเชิงพื้นที่ https://creativecommons.org/licenses/by/4.0 2023-09-07 2023-09-07 2 1 18 25 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคนรุ่นใหม่ ในเขตจังหวัดเลย https://so09.tci-thaijo.org/index.php/ABJVRU/article/view/2898 <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการตัดสินใจ 2) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ และ 3) ศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการตัดสินใจของคนรุ่นใหม่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตจังหวัดเลย เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ โดยจำแนกตามตัวแปรเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เลือกตั้ง กลุ่มประชากรที่มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 13,543 คน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 388 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณระหว่างตัวแปรทั้งหมดในรูปแบบของเมตริกซ์สหสัมพันธ์ วิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับการตัดสินใจการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคนรุ่นใหม่ในเขตจังหวัดเลย โดยรวมอยู่ในระดับมาก (<strong>)</strong>= 4.50, S.D. = 0.37) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านนโยบายของผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง (<strong>)</strong>= 4.55, S.D. = 0.43) มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาได้แก่ด้านด้านคุณลักษณะของผู้สมัครรับเลือกตั้ง <br />(<strong> </strong>= 4.52, S.D. = 0.47) ด้านวิธีการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง (<strong>)</strong>= 4.46, S.D. = 0.47) และด้านระบบการจัดการเลือกตั้งและด้านอื่น ๆ (<strong>)</strong>= 4.44, S.D. = 0.47) ตามลำดับ 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคนรุ่นใหม่ คือ ด้านนโยบาย ของผู้สมัครรับเลือกตั้งและนโยบายของพรรคการเมือง มีระดับการตัดสินใจมากที่สุด เขียนเป็นสมการพยากรณ์ ดังนี้ Y= -3.880 – 1.050 อายุ (X2) - 0.932 ระยะเวลาที่อาศัยในพื้นที่เลือกตั้ง (X5) + 1.423 ปัจจัยด้านนโยบายของผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง (Y2) 3. ข้อเสนอแนะควรให้ความสำคัญกับการบริหารงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน รวมทั้งการเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมีคุณธรรมจริยธรรม</p> ณัฐวัฒน์ เนตรถา อาทิตย์ แสงเฉวก ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารมหาวิทยาลัยพัฒนาเชิงพื้นที่ https://creativecommons.org/licenses/by/4.0 2023-09-07 2023-09-07 2 1 23 40